วิจิตรา กรุ๊ป ชี้ Mega Project ดันโครงสร้างตลาดอสังหาฯ

วันนี้ทีมงานบ้านดีได้รับเกียรติจาก ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร วิจิตรา กรุ๊ป ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ วิติจราธานี หมู่บ้านมารวย และ วิคทอเรีย ได้ร่วมพูดคุยถึงวิสัยทัศน์และแนวโน้มทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก ในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ มารวย และ กลุ่มวิจิตรา

Q: มุมมองศักยภาพในภาคตะวันออกจะเจริญเติบโตอย่างไรในการพัฒนาอสังหาฯ

หลังจากเรื่องของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ภาครัฐเร่งผลักดัน Mega  Project อยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออกมีการเจริญเติบโต อย่างต่อเนื่อง คาดว่าตัวเลขทะลุ 5% และจะเจริญเติบโตต่อเนื่องระยะยาวไปอีกหลายปี ซึ่ง ขณะนี้เศรษฐกิจภาคตะวันออกเติบโตเร็วมาก โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

Q: โครงการมารวยและกลุ่มวิจิตรา มีโครงการที่พัฒนาในภาคตะวันออก ในทำเลไหนบ้าง

สำหรับ แพทโก้ พร็อพเพอร์ตี้ เรามีการพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยมีบริษัทในเครือ คือ บริษัท แพทโก้ แพลตินัม  พัฒนาเป็นทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด 2 ชั้น ภายใต้แบรนด์ วิคทอเรีย มอเตอร์เวย์ บางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา และมีอีก 1 โครงการคือ วิคทอเรีย บางนา-ตราด กม.36 เป็นทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิต

นอกจากนี้ คือ บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์ บ้านมารวย ขณะนี้มีทั้งหมด 6 โครงการ กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบไปด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา ,ชลบุรี ,สระแก้ว ได้แก่

• บ้านมารวย ริเวอร์ไซด์ บางประกง
• บ้านมารวยโสธร 3
• บ้านมารวยโสธร 4
• บ้านมารวยแหลมฉบัง
• บ้านมารวยสระแก้ว
• บ้านมารวยอรัญ

Q: นอกจากภาคตะวันออก โครงการที่พัฒนาในโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก(บางนา-ตราด ,สมุทรปราการ) มีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง

แพทโก้ พร็อพเพอร์ตี้ เรามีแลนด์แบงก์รอการพัฒนาหลายพันไร่ ซึ่งขณะนี้ ก็มีการนำมาทำเลที่มีศักยภาพมาพัฒนาอยู่เรื่อยๆซึ่งขึ้นโครงการใหม่ปีละประมาณ 3-5 โครงการ

Q: ทิศทางและแนวทางในการพัฒนาโครงการในภาคตะวันออกในปี 2561 เป็นอย่างไร

ปีนี้เรื่องของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก มีความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ และล่าสุดทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีการรายงานผลการขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ในเดือน สิงหาคม 2560 มี จำนวน 7,159 ราย เติบโตขึ้น 20% ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 4 ปี

ประกอบกับมีการผลักดันโครงการลงทุน Mega Project ของภาครัฐที่มีเข้ามาเพื่อพัฒนาระบบ โครงสร้างพื้นฐานในประเทศหลายโครงการ ทำให้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น จึงทำให้การบริโภคภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ดีในปีหน้า

บทความโดย ทีมงานบ้านดี (www.baan-d.com)