เริ่มแล้ว “โครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน” สอนวิธีกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ตั้งเป้าถึงสิ้นปีอบรมได้ 7 พันราย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐดำเนินตาม “พันธกิจ : ทำให้คนไทยมีบ้าน”
จึงได้จัดทำ “โครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน” เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ สร้างวินัยการเงิน และเตรียมความพร้อมในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ โดยลูกค้าจะได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของธนาคาร เพื่อเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร แนวทางการปฏิบัติในการขอสินเชื่อ
โดยธนาคารได้แบ่งลูกค้าออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มที่ 1 “ลูกค้ามีศักยภาพทางการเงินและมีเอกสารประกอบการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย”
กลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีที่อยู่อาศัยได้ในอนาคต เนื่องจากมีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจน แต่อาจมีรายได้สุทธิไม่เพียงพอต่อการซื้อบ้านในระดับราคาที่ต้องการ หรืออาจไม่ทราบหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ สัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาวงเงินให้สินเชื่อของธนาคาร โดยเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ได้วงเงินสินเชื่อเพียงพอต่อการซื้อที่อยู่อาศัย
กลุ่มที่ 2 “ลูกค้าที่ไม่มีความพร้อมทางด้านเอกสารการเงินและไม่มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าสู่ระบบสถาบันการเงิน”
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ ซึ่งไม่สามารถแสดงหลักฐานแหล่งที่มาของรายได้ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้จัดทำสมุดบัญชีรับ – จ่ายรายวัน ตามแบบฟอร์มที่ธนาคารกำหนดไม่น้อยกว่า 9 เดือน พร้อมกับเปิดบัญชีเงินฝาก และฝากเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำมาแสดงเป็นหลักฐานแสดงการมีอยู่ของรายได้ แนะนำการจัดเก็บหลักฐานเพื่อแสดงที่มาของรายได้ อาทิ ใบเสร็จรับเงิน สัญญาเช่าแผงค้าขาย เป็นต้น
กลุ่มที่ 3 “ลูกค้าที่เคยติดปัญหาเครดิตบูโร”
เงื่อนไขคือปัจจุบันไม่มีภาระหนี้ แต่ไม่มีความพร้อมด้านเอกสารประกอบการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นกลุ่มที่เคยประสบปัญหาการผ่อนชำระสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ในอดีตแต่ปัจจุบันสามารถปิดบัญชียอดค้างชำระที่เคยเกิดขึ้นได้แล้ว ปัจจุบันไม่มีภาระหนี้ และควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีที่อยู่อาศัยได้ในอนาคตอีกครั้ง
สำหรับวิธีปฏิบัติควรเปิดบัญชีเงินฝาก และต้องฝากเงินอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดตามวงเงินที่ลูกค้าจะสามารถกู้ได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน และเมื่อครบกำหนดต้องมีเงินฝากคงเหลือไม่น้อยกว่า 9 เท่าของเงินงวด
กลุ่มที่ 4 “นักศึกษาจบใหม่”
สำหรับกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีที่อยู่อาศัยได้ในอนาคต หากประกอบอาชีพและมีที่มาของรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเตรียมเอกสารประกอบการยื่นสินเชื่อ อาทิ เอกสารเพื่อแสดงที่มาของรายได้ สมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงแหล่งการมีอยู่ของรายได้ เป็นต้น โดยธนาคารมีแผนจะให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวินัยทางการเงินแก่ลูกค้ากลุ่มนี้แบบเชิงรุกในสถานศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ลูกค้าตามโครงการดังกล่าวเมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด จะมีโอกาสยื่นคำขอพิจารณาสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งธนาคารจะพิจารณาผ่อนปรนสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) เพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี