แบงก์ปรับกลยุทธ์รุกกลุ่มสินเชื่อบ้าน

แบงก์ปรับกลยุทธ์กลุ่มสินเชื่อบ้านในปีนี้ “กรุงไทย” เร่งระบายทรัพย์ NPA ชูแพ็กก้อนเร่ขายลูกค้าต่างจังหวัด หวั่นสิ้นปีแบก NPA อ่วม ค่ายแบงก์กรุงเทพ เจาะทั้ง “กู้บ้านรายย่อย-ดีเวลอปเปอร์” ดันยอดปล่อยกู้ใหม่โต มั่นใจทั้งปีขยายตัว 8% จากสิ้นปีนี้ ด้าน “LHBank” ชู 6 เดือนแรก สินเชื่อใหม่โต 28% จากลูกค้าซื้อบ้านใหม่-ขอรีไฟแนนซ์

นายชัยชาญ พลานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารทรัพย์สินพร้อมขาย สายงานปรับโครงสร้างหนี้และบริหารทรัพย์สิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์การขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) จากเดิมจะ”ขายปลีก” ทรัพย์สินทีละรายการ มาเป็น”ขายส่ง” โดยจะคัดทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคจัดเป็นกลุ่ม มีมูลค่าทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อกลุ่ม และจะเปิดประมูลขายกลุ่มทรัพย์ให้แก่นักลงทุนในภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธนาคารขาย NPA แล้ว 3,000 ล้านบาท ถือว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีนี้ที่ 6,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่าหลังปรับกลยุทธ์แล้วน่าจะสามารถขาย NPA ได้ตามเป้าหมาย

“ปีนี้เป็นปีแรกที่เราเริ่มขาย NPA แพ็กเป็นก้อน เพราะมีคนเข้ามาซื้อทรัพย์จำนวนน้อยลง เขายังไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารมองว่าปลายปีนี้ NPA จะเพิ่มขึ้นอีก เกรงว่าจะขาย NPA ออกไม่ทัน ซึ่งทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นก็เป็นผลจากเมื่อปีที่แล้วเราปรับโครงสร้างหนี้กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ และมีลูกค้าโอนทรัพย์มาชำระหนี้เพิ่มขึ้น ตอนนี้เราประเมิน 2 กรณี คือ กรณีดีที่สุด สิ้นปีนี้ธนาคารจะมี NPA มูลค่ารวมอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท กรณีแย่สุด น่าจะมี NPA อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท จากสิ้น มิ.ย.มูลค่า NPA รวมอยู่ที่ 28,500 ล้านบาท” นายชัยชาญกล่าว

นอกจากนี้ธนาคารจะคัด NPA ที่จะครบกำหนดการถือครองในปี 2560-2561 (เกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย) ออกมาขายบางส่วนให้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) และ บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) หลังจากที่ปีที่แล้ว ธนาคารได้คัดทรัพย์ขายให้ BAM รวม 200 ล้านบาท ปีนี้น่าจะมีการคัดขายเพิ่มขึ้น

ส่วนการให้สินเชื่อแก่กลุ่มผู้ซื้อ NPA นายชัยชาญกล่าวว่า ธนาคารยังคงเข้มงวดในการปล่อยกู้ดังกล่าว จึงทำให้ยังมียอดปฏิเสธสินเชื่อในกลุ่ม NPA อยู่ที่ 50% เป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้กู้บางรายมีรายได้ไม่เพียงพอต่อมูลค่าทรัพย์ที่จะซื้อ

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกสินเชื่อบ้านของธนาคารเติบโตดีขึ้น โดยยอดสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการลดภาษีค่าโอนและจดจำนอง สำหรับผู้ซื้อบ้านที่เพิ่งหมดไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แต่หลังหมดมาตรการดังกล่าวคำขอสินเชื่อบ้านก็ลดลง 30-40% และอีกด้านมาจากธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัย (พรีไฟแนนซ์) ในต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี หัวหิน เชียงใหม่ และอื่น ๆ จึงทำให้สินเชื่อบ้านโดยรวมของธนาคารยังเติบโตได้ดี และปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ 8% ตามภาวะตลาด

ทั้งนี้ สิ้น มิ.ย. 59 ธนาคารมียอดคงค้างของสินเชื่อบ้านที่อยู่ 220,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อภายในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 240,000 ล้านบาท เติบโต 4% จากปี 2558

“สัดส่วนการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารยังอยู่ระดับ 60-70% ตามปกติ โดยลูกค้าที่มากู้บ้านยังอยู่ในกรุงเทพฯ ที่เติบโตได้มากกว่าต่างจังหวัด ส่วนไตรมาส 3 และ 4 คงต้องรอดูปริมาณการซื้อขายบ้านก่อนว่าจะลดลงหรือไม่ ส่วนเรื่องเอ็นพีแอลของสินเชื่อบ้าน ในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนมากมาจากกลุ่มเอสเอ็มอี แต่ธนาคารก็บริหารจัดการได้” นายทวีลาภกล่าว

นายสีห์โสภณ ตติยะวรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อ สายงานสินเชื่อ 1 ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ขายตัว 28% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้มียอดคงค้างสินเชื่อบ้านอยู่ที่ 32,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่โตมาจากบ้านใหม่ รองลงมาเป็นสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ส่วนแนวโน้มสินเชื่อบ้านในครึ่งปีหลัง ธนาคารคาดว่าจะชะลอตัวกว่าครึ่งปีแรก แต่ยังจะสามารถทำยอดคงค้างสินเชื่อบ้านเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5%จากปี 2558

ขอบคุณข้อมูล: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์