แกรนด์ แอสเสทเปิดแผนยุทธศาสตร์ รุกพัฒนาโรงแรมและอสังหาฯเพื่อเสริมมูลค่า นำร่องโครงการที่ระยอง เผยภายใน5 ปีจะขยายโรงแรมให้ได้ 8 แห่ง วางเป้าทุกโครงการจะนำเข้ากองรีท ขณะธุรกิจอสังหาฯเน้นลงทุนคอนโดฯในใจกลางเมือง ปลื้มไฮด์ สุขุมวิท 11 ยอดขายกว่า 50% ส่วนใหญ่ลูกค้าต่างชาติ เร่งระบายห้องเพนต์เฮาส์ ในโครงการไฮด์ สุขุมวิท 13
นายไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภายหลังควบรวมกับบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) ทิศทางการดำเนินงานแกรนด์ แอสเสท ค่อนข้างชัดเจน โดยจะมุ่งทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า คือธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในใจกลางเมือง ทั้งนี้ จะขึ้นโครงการอสังหาฯติดกับโครงการโรงแรม เพื่อต่อยอดกับธุรกิจโรงแรมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจอสังหาฯ
“การรวมกับพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับแกรนด์ แอสเสท เพราะมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯเข้ามาให้คำปรึกษา โดยโครงการใหญ่โครงการแรกที่พัฒนาคือ โครงการที่ระยอง มีทั้งโรงแรม วิลล่า และคอนโดมิเนียม ซึ่งวิลล่าสามารถนำมาปล่อยเช่า ทำให้คนซื้อมีรายได้ส่วนหนึ่ง การมีโรงแรมคู่กับอสังหาฯนี้ทำให้บริษัทได้บริหารที่ดินแปลงสวย เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว”
ปัจจุบัน บริษัทเป็นเจ้าของโรงแรม 3 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ 1 แห่ง และที่หัวหิน 2 แห่ง นอกจากนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่ง ส่วนอสังหาฯมีโครงการไฮด์ สุขุมวิท 13 โครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ของบริษัท ซึ่งสร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์เกือบหมด ยังเหลือห้องเพนต์เฮาส์รวม 12 ห้อง กับโครงการไฮด์ สุขุมวิท 11 ขณะนี้ยอดจองมากกว่า 50% ฉะนั้น ในแง่สินทรัพย์กลุ่มโรงแรมจะมากกว่าอสังหาฯ สัดส่วน 60-70%และ 30% ตามลำดับ แต่ธุรกิจอสังหาฯสร้างกำไรที่ดีให้กับบริษัท
ดังนั้น แผน 5 ปีของแกรนด์ แอสเสท จะสร้างรายได้จากธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก โดยตั้งเป้าจะขยายเพิ่มเป็น 7 โรงแรม พร้อมกันนี้วางแผนนำทุกธุรกิจจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT เพื่อจะสร้างมูลค่า และกำไรให้กับบริษัทฯ ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากกองรีท จะนำมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อื่นในประเทศไทย รวมทั้งออกไปต่างประเทศ หากได้ข้อเสนอที่ดี โดยล่าสุดมีผู้นำเสนออสังหาฯในลอนดอน แต่ยังไม่ตัดสินใจ
นายไพสิฐกล่าวถึงห้องเพนต์เฮาส์ในโครงการไฮด์ สุขุมวิท 13 ว่า เป็นไฮเอนด์เพนต์เฮาส์แต่ราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ มี 2 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ขนาด 491.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 135 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 2.5 แสนบาทต่อตร.ม. อยู่บนชั้น 38-39 ของอาคาร นอกจากนี้ยังมีห้องดีลักซ์ เพนต์เฮาส์ ซึ่งมีห้องเปล่าราคาเริ่มต้นที่ 38 ล้านบาท และห้องที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ราคาระหว่าง 50-60 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ไม่จัดโปรโมชันลดราคาเพื่อเร่งระบายสต๊อก
คาดการณ์รายได้ปี2559 โดยหลักๆจะมาจากโรงแรม ซึ่งปีนี้ยอดการเข้าพักใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ฉะนั้นคาดว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนธุรกิจอสังหาฯ นอกจากโครงการไฮด์ แล้วยังมีคอนโดมิเนียมบลูลากูน หัวหิน ซึ่งพัฒนาขึ้นก่อนจะควบรวมกับพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ปัจจุบันเหลือขาย 6 หน่วย ขนาดห้อง 150 ตร.ม. ขายในราคาตร.ม.ละ 5 หมื่นบาท อยู่ติดโรงแรมเชอราตัน หัวหิน หากสามารถขายบลูลากูน และไฮด์ สุขุมวิท 13 ได้หมดก็จะรับรู้รายได้เลย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.