บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร โครงการ MY OZONE

“มนต์เสน่ห์ของขุนเขาและลมทะเล คือจุดเริ่มต้นของโครงการมายโอโซน”

คุณทายาท กาญจนะจิตรา กรรมการบริหารบริษัท พิณสิริ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ถามทีมงานอย่างอารมณ์ดีว่า “ถ้าให้คุณจินตนาการบ้านในฝันออกมาเป็นภาพวาดง่ายๆ สักภาพ ในภาพนั้นจะประกอบด้วยอะไรบ้าง ผมเชื่อว่า อย่างน้อยต้องมีรูป ภูเขา หรือไม่ก็ทะเล” จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เราสร้างโครงการภายใต้ชื่อ “มายโอโซน” ที่มีทำเลใกล้ชิดอากาศดีๆ จากท้องทะเล และ ทัศนียภาพของทิวเขา

แม้ว่า 2 ทำเลของเราจะมีความแตกต่าง แต่จุดเด่นที่เหมือนกันคือ อากาศดี อย่างที่ชื่อ ” มายโอโซน ” ของเราตั้งใจสื่อสารไว้ โครงการแรก “โครงการมายโอโซน@บ้านฉาง-หาดพยูน” เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทะเล ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านฉาง ติดถนนทางไปหาดพยูน สามา่ทะเลได้สะดวกสบายมาก ห่างจากชายหาดเพียง 8 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งชุมชนไม่ว่าจะเป็น ตลาด, ห้างสรรพสินค้า, ธนาคาร, โรงพยาบาลสิริกิติ์, สนามบินอู่ตะเภา, ทางหลวง หมายเลข331, มอเตอร์เวย์ฯลฯ สะดวกสบายในการเดินทางภายในโครงการ ดีไซน์แบบบ้านในสไตล์ Modern Concept คือ การดีไซน์ภายใต้แนวคิดที่ตอบสนองต่อประโยชน์ใช้สอยอย่าง ตรงไปตรงมาและมีเหตุผลเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะทำให้การอยู่อาศัยลงตัว และสะดวกสบาย

สำหรับผู้ที่ตกหลุมรักทิวทัศน์วิวภูเขา แนะนำให้ลองและชมด้วยตัวท่านเองได้ “โครงการมายโอโซน@สาย36-มะขามคู่ สัมผัสวิวภูเขาโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงเขาใหญ่” โครงการที่เรามาต่อยอดนี้ต้องยอมรับว่า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น และบ้านแฝด 2 ชั้นที่มีอยู่ (เดิมใช้ชื่อโครงการพาลาเซตโต) เป็นแบบบ้านที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งอะไรที่ดีอยู่แล้วเราก็จะไม่ทิ้งส่วนที่เหลือเราก็มาพัฒนาให้ผสานกันอย่างลงตัว พลิกโฉมผสมผสาน บ้านสไตล์อิตาลี่ในเฟสแรกและเพิ่มโพรดักส์ในเฟสใหม่เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว “สไตล์ยูโรเปี้ยน” เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าและตรงกับความต้องการมากขึ้น แต่ยังคงมีกลิ่นอายและบรรยากาศแนวเขาใหญ่ วังน้ำเขียว โครงการฯ ตั้งอยู่ที่ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา ติดกับถนนทางหลวงหมายเลข 36 ใกล้กับเทศบาลมะขามคู่เพียง 2 กิโลเมตร ก่อนถึงตลาดนพเก้าซอย 12 ถนนทางหลวงหมายเลข 36 เป็นจุดที่มีโอกาสเติบโตสูงมากและจะเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงจุด ที่เราตั้งอยู่เป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางไปยังเขตต่างๆ อีกด้วย

เปิดประสบการณ์ทำงานในแบบ “เราจะดูแลลูกค้าอย่างสุดหัวใจ”

แม้ว่าเราจะให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรฐานการก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แต่ก็ไม่เคยละเลยในเรื่องของ “การบริการตลอดการขาย” ที่ผมย้ำกับน้องๆ ทุกคนเสมอว่า ทุกช่วงเวลาของลูกค้าสำคัญกับเราทั้งหมด ทั้งเริ่มขาย ระหว่างขาย และหลังการขาย ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารกับเราได้ตลอด หากพบปัญหาใดๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการของเรา เรายินดีแก้ปัญหาให้โดยไม่ทอดทิ้ง ที่ผ่านมา กว่า 30% เป็นลูกค้าจากการแนะนำบอกต่อ สิ่งนี้จึงชี้วัดประสบการณ์การทำงาน ภายใต้แนวคิดองค์กรของเราที่ว่า “เราจะบริการลูกค้าอย่างสุดหัวใจ”