“สมคิด” พอใจแบงก์รัฐสนองนโยบาย เตรียมแก้หนี้นอกระบบ เปิดโอกาสเจ้าหนี้เข้าสู่ระบบ

• “สมคิด” พอใจแบงก์รัฐสนองนโยบาย เตรียมแก้หนี้นอกระบบ เปิดโอกาสเจ้าหนี้เข้าสู่ระบบ
• ประชาชาติธุรกิจ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ว่าได้มาติดตามงานต่างๆ ที่แบงก์รัฐได้ดำเนินการไป โดยถือว่าคืบหน้าไปได้มาก อย่างกองทุนหมู่บ้าน ภายในสิ้น เม.ย. จะมีการปล่อยเงินล็อตที่ 2 ออกไป

ทั้งนี้ สำหรับกรณี ธ.ก.ส. ได้มีการช่วยเหลือเกษตรกรไปมาก โดยเฉพาะในส่วนโครงการ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอีเกษตรกร ถือว่าคืบหน้าไปได้ดีมาก มีการขอสินเชื่อกว่า 9,000 ล้านบาทแล้ว อย่างไรก็ดี ตนฝากให้เร่งโครงการให้แพร่หลาย ถึงกลุ่มคนที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังอยากให้ตั้งสถาบันพัฒนาเกษตรกรขึ้นมาในแบงก์ เพื่อยกระดับเกษตรกรหนุนเสริมกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงสร้างการรับรู้นวัตกรรมใหม่ให้แก่เกษตรกร ไม่ใช่แค่การขอสินเชื่อ

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า ในเรื่องการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชน้ำน้อย ยังคืบหน้าไปได้ไม่ค่อยดี ยังมีผู้ใช้สินเชื่อน้อย ซึ่งได้บอกให้เชื่อมโยงเอกชนในเรื่องการหาตลาด หรือเจรจาให้มาช่วยรับซื้อ แล้วก็ให้เน้นดึงการท่องเที่ยวให้มาสู่ชุมชนมากขึ้น

“ที่สำคัญ ใน 1-2 เดือนให้ ธ.ก.ส.เตรียมตัว ว่าถ้าเกษตรกรต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน โดยเฉพาะกรณีภัยแล้งรุนแรงขึ้น หากจำเป็น ธ.ก.ส. ต้องพร้อมลงไปช่วยเหลือทันที” นายสมคิดกล่าว

ส่วนธนาคารออมสิน ได้กำชับว่า ต่อไปนี้ต้องเป็นธนาคารเพื่อประชาชนฐานรากจริง ๆ ลงไปที่รายย่อยให้มากขึ้น และเรื่องสตาร์ทอัพ

“วงเงินที่อยากเห็นจริง ๆ ของแบงก์ออมสิน คือ ไม่ใช่แบงก์ที่ปล่อยวงเงินสูง ๆ 40-50 ล้านบาท เราต้องการเห็นรายย่อยมากขึ้น” นายสมคิดกล่าว

นอกจากนี้ นายสมคิด กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้นอกระบบที่ยังอยากจะปล่อยกู้อยู่ เข้ามาอยู่ในระบบ ซึ่งจะมีการเสนอรัฐบาลออกนโยบายพิเศษ ไม่ให้มีการปล่อยดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะทำให้เจ้าหนี้เดิม สามารถปล่อยกู้ต่อได้

“เจ้าหนี้เดิม ปล่อยกู้ต่อได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบดอกเบี้ยไม่เกินระดับหนึ่ง หรือถ้าลูกหนี้ไม่ต้องการใช้บริการจากเจ้าหนี้เดิม ก็สามารถไปใช้บริการออมสิน หรือ ธ.ก.ส.ได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะมีการเสนอ ครม. เพื่อดูแลไม่ให้มีการขูดรีดมากเกินไป” นายสมคิดกล่าว

ส่วนเอ็กซิมแบงก์มีการรายงานความคืบหน้า ว่าได้มีการปรับทิศทางการทำงาน โดยขณะนี้ได้เริ่มเข้ามาดูการสนับสนุนการค้ากับประเทศอิหร่าน และประเทศ CLMV โดยจะไปตั้งสาขาในไม่ช้านี้ ถือเป็นการเปิดเกมรุกเป็นที่พึ่งให้ผู้ส่งออก

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานความคืบหน้าโครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งทางธนาคารออมสินกับ ธอส. รายงาน ว่าแค่ 2 สัปดาห์ มีความต้องการสินเชื่อสูงมาก ทั้งนี้ รมว.คลังได้กำชับให้กระบวนการรวดเร็ว

ขอขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

แหล่งที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1460975678