“สมคิด” ปลุกฮับตะวันออก เร่งไทม์ไลน์ดึงนักลงทุน “ยุ่น-เกาหลี-จีน”

นับเป็นครั้งที่ 3 ที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจรัฐบาล คสช. บุก “คมนาคม” กระทรวงเศรษฐกิจเกรดเอ ติดตามความก้าวหน้า 20 โครงการ มูลค่า 1.79 ล้านล้านบาท

แผนปฏิบัติการจู่โจมเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่ากันว่า “มาเร่ง-มาชม” ที่คมนาคมรักษาแผนงานโครงการไม่ให้หลุดเป้า เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ถือว่าทำผลงานได้ดี แต่หากมีไทม์ไลน์แต่ละโครงการชัดเจนจะดียิ่งขึ้นมากกว่านี้

“ตอนนี้คมนาคมได้ผู้บริหารครบทุกหน่วยแล้วขอให้เร่งงานให้เป็นตามแผนเทียบกับช่วงที่ผ่านมาถือว่าดีขึ้นและกำลังคึกคัก เมื่อโครงการกำลังได้รับการขับเคลื่อน ก็อยากให้เร็วกว่านี้ และประกาศการประมูลงานให้ชัดเจนจะเป็นเมื่อไหร่ สร้างเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้เอกชนกล้าที่จะลงทุน” ข้อสั่งการของรองนายกฯสมคิด

ซึ่ง “สมคิด” ย้ำว่าโครงการลงทุนไหนที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ภายใน 3-4 เดือนนี้ ให้เร่งการเบิกจ่ายทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ อย่าปล่อยไปตามธรรมชาติ รอให้ใกล้สิ้นปีงบประมาณถึงไปเร่งตอนท้าย นับจากนี้ถึงปี 2565 คมนาคมจะมี 101 โครงการตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง จะสร้างมูลค่าการลงทุนได้ไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านล้านบาท ไม่ใช่แค่ 20 โครงการที่เร่งด่วน

“ได้รับรายงาน มิ.ย.นี้มีรถไฟฟ้า 3 สายเปิดประมูล คือ สีเหลือง สีชมพู สีส้ม นอกจากนี้มีมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชและบางใหญ่-กาญจนบุรี รถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยองและกรุงเทพฯ-หัวหิน”

นายสมคิดกล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาแผนงานโครงการคมนาคมจะรองรับกลุ่มพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกหรืออีสเทิร์นอีโคโนมีคอร์ริดอร์ ทั้งท่าเรือมาบตาพุด แหลมฉบังเฟส 3 สนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง และมอเตอร์เวย์ เนื่องจากนักลงทุนจากญี่ปุ่น เกาหลี และจีนให้ความสำคัญในการลงทุนพื้นที่นี้มาก

“เส้นระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ญี่ปุ่นให้ความสำคัญที่ท่าเรือมาบตาพุด แหลมฉบัง เกาหลีให้ความสำคัญชลบุรีและระยอง ส่วนจีนก็กำลังมา ถ้ามีท่าเรือน้ำลึก โลจิสติกส์ โกดังที่ทันสมัย จะกลายเป็นประตูทุกที่ ตรงนี้เป็นฮับการลงทุนใหญ่มาก สนข.ต้องเร่งทำ ผมต้องการให้ทำแผนงานโลจิสติกส์ทั้งระบบออกมาให้ทันการประชุมระบบขนส่งของประเทศประมาณต้น ก.ค.นี้ เพื่อขายไอเดียให้กับนักลงทุนไทยและต่างชาติ”

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ทั้ง 20 โครงการล่าสุดวงเงินลงทุนลดลงจาก 1.79 ล้านล้านบาทเหลือ 1.6 ล้านล้านบาท เนื่องจากปรับราคากลางใหม่ ซึ่งผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 11 โครงการ วงเงินประมาณ 4.6 แสนล้านบาท ล่าสุดวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครม.รับทราบงานก่อสร้างทางต่างระดับสระบุรีวงเงิน 1,509 ล้านบาท ของโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ระยะทาง 196 กม. จะเริ่มก่อสร้างภายในเดือน ก.ค.นี้ และในครึ่งปีหลังจะเร่ง 8 โครงการที่เหลือเสนอ ครม.อนุมัติและเปิดประมูลก่อสร้าง

“มิ.ย.-ก.ค.นี้จะมีประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย ทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และขอ ครม.อนุมัติสายมาบกะเบา-จิระ และนำรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน เงินลงทุน 9.46 หมื่นล้านบาท และกรุงเทพฯ-ระยอง เงินลงทุน 1.52 แสนล้านบาท เสนอให้คณะกรรมการ PPP อนุมัติ ซึ่งโครงการในแผนปี”59 บางงานเริ่มก่อสร้าง บางงานเหลือพิจารณาจากคณะกรรมการสภาพัฒน์ หรืออยู่ในช่วงปรับปรุงโครงการ จะมีความล่าช้าแบบเดือนต่อเดือน แต่ยังอยู่ในกรอบเวลา คาดว่าไตรมาส 3-4 จะเร่งประมูลได้หมด รวมถึงรถไฟไทย-จีนจะก่อสร้างช่วงกรุงเทพฯ-โคราชเดือน ก.ย.นี้ ส่วนรถไฟไทย-ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างศึกษาโครงการ”

ด้าน “ชาติชาย ทิพย์สุนาวี” ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ผลการเบิกจ่ายของคมนาคมอยู่ที่ 76,517 ล้านบาทหรือ 56% ยังเหลือ 59,584 ล้านบาท คาดว่าถึงสิ้น ก.ย.จะเบิกจ่ายได้ 91% จากทั้งหมด 136,101 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะเร่งรัดให้เป็นไปตามแผนทุกโครงการ

ขอบคุณข้อมูล: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์