นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตนได้รับเอกสารการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทาง ลาซาด้า ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอาลีบาบา กรุ๊ป ถึงการยืนยันที่จะลงทุนในไทยเพื่อสร้าง สวนเทคโนโยลีด้านดิจิทัล (Ecommerce Park) ในโครงการเมืองอุตสาหกรรมการค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือ “Generation 5 Ecommerce Park” ทางเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทอาลีบาบาและลาซาด้าให้ความสนใจ ในการที่จะร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย
โดยในความร่วมมือของลาซาด้าที่มีแผนงานอันจะร่วมก่อตั้งอีกหลากหลายโครงการในอนาคตเพื่อสนับสนุนอีคอมเมิร์ซและเสริมความแข็งแกร่งให้กับ SMEs ไทยถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการนำประเทศไทยเดินหน้าไปตามแผนนโยบายไทยแลนด์ 4.0
ซึ่งหนึ่งในโครงการดังกล่าวคือ การที่ลาซาด้าได้ร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพระบบการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและความต้องการของอีคอมเมิร์ซ
นอกจากนี้ ลาซาด้ายังได้ทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย โดยได้จัดโปรแกรมการพัฒนาศักยภาพทางอีคอมเมิร์ซที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ SMEs ไทย ทั้งยังสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยได้รับประสบการณ์จากโปรแกรมการพัฒนาในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น อาทิ การส่ง 5 สุดยอดผู้ค้าออนไลน์จาก ลาซาด้า ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมเวิร์กช็อปกับอาลีบาบา แคมปัส ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน
ทางด้านนายอเนล็กแซนดรอ บิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังการร่วมลงนามระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป และรัฐบาลไทย เมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2559 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ลาซาด้า ประเทศไทย ยังคงยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนร่วมผลักดันการพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมให้ทั้งความสนับสนุนต่อนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล
ทั้งนี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีอัตราการเจริญเติบโต อย่างมีนัยสำคัญมาตลอดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ลาซาด้าได้เข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย ซึ่งลาซาด้ามีความมุ่งมั่นในการให้ความสนับสนุนเพื่อพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญให้กับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของตลาดอีคอมเมิร์ซไทย ที่มีการคาดการณ์มูลค่าของตลาดว่าจะสูงถึง 5,300 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.86 แสนล้านบาท ภายในปี 2564 และในระยะยาว ลาซาด้ามีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ SMEs และแบรนด์สินค้าไทยในการก้าวสู่โลกอีคอมเมิร์ซ ผนวกกับการยกระดับความสามารถด้านโลจิสติกส์ของเรา สิ่งเหล่านี้จึงนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยมีความสามารถในการรองรับการเจริญเติบโตของอีคอมเมิร์ซได้ในอนาคต
สำหรับโปรเจ็กต์อีคอมเมิร์ซปาร์คนี้จะนำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ (EcoSytem)ที่ดีที่สุดของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นระบบนิเวศฯชั้นนำในภูมิภาคโดยจะเป็นจุดนัดพบของเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) และกลุ่มสตาร์ทอัพ ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางโลจิสติกส์ นอกจากนั้นโปรเจคอีคอมเมิร์ซ ปาร์ค จะเป็นศูนย์รวมที่นำโครงสร้างทางโลจิสติกส์และเทคโนโลยีขั้นสูงมาไว้ในที่เดียวกันในเขตอีอีซีเพื่อให้บริการอย่างครบวงจร
“อีคอมเมิร์ซปาร์คในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี พ.ศ.2562 โดยโปรเจ็กต์อีคอมเมิร์ซ ปาร์ค จะเป็นประตูเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ที่เปิดสู่ตลาดนานาประเทศ ทั้งยังอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อด้านการขนส่ง โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม”
ขอบคุณข้อมูล ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.