สำหรับรถโดยสารที่จะให้บริการภายในสนามบินอู่ตะเภามีทั้งสิ้น 3 เส้นทาง โดยจะเริ่มเปิดบริการวันนี้เป็นต้นไป เก็บค่าโดยสารตามระยะทาง ได้แก่
สาย 398 ตราด – อู่ตะเภา โดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ตราด, จ.จันทบุรี, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 1, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสาร 130 บาท
สาย 399 ระยอง – อู่ตะเภา โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอช ระยอง เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 2, อ.บ้านฉาง, ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภารวมระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 33 นาที ค่าโดยสาร 24 บาท
สาย 400 ชลบุรี – อู่ตะเภา โดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ชลบุรี, อ.ศรีราชา, เมืองพัทยา, อ.สัตหีบ, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 34 นาที ค่าโดยสาร 64 บาท
ทั้งนี้ ในแต่ละเส้นทางใช้รถโดยสารปรับอากาศมาตรฐานใหม่ มีระบบความปลอดภัยครบครัน ติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว (Speed Monitor) มีระบบเบรก ABS ตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดและมีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยผ่านการตรวจรับรองโดยกรมการขนส่งทางบก
จะใช้จำนวนรถ 2-4 คัน ในแต่ละเส้นทางเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินประมาณ 40 เที่ยวต่อวัน และในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นถึง 50 เที่ยวต่อวัน ผู้ประกอบการขนส่งสามารถบริหารจัดตารางเดินรถให้สอดคล้องกับตารางเที่ยวบินได้อย่างเหมาะสม
โดยคาดการณ์ว่าเส้นทางรถโดยสารเชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาทั้ง 3 เส้นทาง จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ และทิศทางการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มักนิยมเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ
ด้าน พลเรือเอก รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า สนามบินอู่ตะเภา อยู่ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 35 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ 30 กิโลเมตรจึงได้รับการเลือกให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศ และเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก โดย มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และก่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดและภูมิภาค
สำหรับสายการบินของไทยที่ให้บริการ ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยไลอ้อนแอร์ และนกแอร์ส่วนสายการบินจากต่างประเทศ ได้แก่ Azur Air, Royal Flight, North Wing, Scat Air, S7 Airlines, เสิ่นเจิ้นแอร์ไลน์ส รองรับผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละประมาณ 35,000 – 40,000 คน
ปัจจุบันท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้ขยายและเพิ่มอาคารผู้โดยสารใหม่ ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 3 ล้านคนต่อปี
ดังนั้น การเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองจึงมีความสำคัญและช่วยเพิ่มศักยภาพให้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็น Hub ของการบินแห่งใหม่ของประเทศรองรับนโยบาย EEC ของรัฐบาล ที่สำคัญคือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารเดินทางได้สะดวก คล่องตัวทุกการเดินทาง
ขอบคุณข้อมูล : prachachat
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.