บี้โรงแรม-อพาร์ตเมนต์ท้องถิ่นเข้าระบบวุ่น พัทยาสะเทือนแสนห้อง”

บี้โรงแรม-อพาร์ตเมนต์ท้องถิ่นเข้าระบบวุ่น พัทยาสะเทือนแสนห้อง”เกาะกูด-เกาะช้าง”ติดปมเอกสารสิทธิ

ธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ตต่างจังหวัดสะเทือน มหาดไทยไล่บี้โรงแรม อพาร์ตเมนต์ ที่พักเถื่อนเข้าระบบ ตะลึงกว่า 50-70% ไม่เข้าข่ายกิจการตาม พ.ร.บ.โรงแรม ตรังเชือดแล้ว 13 ราย ภูเก็ตสั่งห้ามราชการพัก-จัดสัมมนาในโรงแรมผิดกฎหมาย เชียงใหม่จัดชุดตรวจเดินสายจับปรับจริงทุกสัปดาห์ ด้านเกาะกูด-เกาะช้างเจอปัญหาที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ-ผู้เช่าแอบต่อเติมอาคาร

เกาะกูด-เกาะช้างติดเอกสารสิทธิ

นายพีระวัฒน์ วังรัตน์กุล นายอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ข้อมูลที่ ททท.สำนักงานตราดสำรวจไว้มีโรงแรม รีสอร์ตในอำเภอเกาะกูดทั้งหมด 109 แห่ง ประกอบด้วยเกาะกูด 75 แห่ง 1,365 ห้อง และเกาะหมาก 34 แห่ง 556 ห้อง มีการจดทะเบียนถูกต้องเพียง 33 แห่ง หรือประมาณ 20% ส่วนใหญ่จะเป็นรีสอร์ต โฮมสเตย์ขนาดเล็กของชาวบ้านที่ยังมีปัญหาเอกสารสิทธิ หรือสิทธิในการครอบครอง จึงไม่สามารถจดทะเบียนได้ คาดว่าการเร่งรัดให้มีการจดทะเบียนโรงแรมให้ถูกต้องจะเสร็จปลายเดือนมีนาคมนี้

“ปัญหาสำคัญคือชาวบ้านประกอบธุรกิจรีสอร์ตโฮมสเตย์ขนาดเล็กจำนวนมากกว่า50%จดทะเบียนไม่ได้เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิหรือสิทธิในการครอบครองที่ดินหรือสัญญาเช่า แม้ว่าจะให้ใช้ สค.1 ได้ แต่ที่ดินชาวบ้านอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิกับกรมธนารักษ์ กรมเจ้าท่า ทหารเรือ และกระทรวงทรัพยากรฯ”

นายจักรพรรดิ ตะเวทิกุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราดกล่าวว่า การจดทะเบียนโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ จะเป็นผลดีและสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจของจังหวัดตราดปี 2559 มีโรงแรม รีสอร์ต 630 แห่ง จำนวน 15,413 ห้อง ประกอบด้วย บนเกาะช้าง 393 แห่ง 10,788 ห้อง เกาะกูด 75 แห่ง 1,365 ห้อง เกาะหมาก 34 แห่ง 556 ห้อง ซึ่งไม่รวมโฮมสเตย์ เกสต์เฮาส์ ลองสเตย์ ส่วนโรงแรมบนฝั่ง 5 อำเภอ มี 128 แห่ง 2,704 ห้อง สำหรับรีสอร์ตที่เกาะหมาก ยื่นจดทะเบียนแล้วราว 50%

ด้านนายคณัสชนม์ ศรีเจริญ ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะช้าง จ.ตราดกล่าวว่า อำเภอเกาะช้างมีโรงแรม รีสอร์ตที่ยื่นจดทะเบียนแล้ว 126 แห่ง และยังไม่ได้มายื่นจดทะเบียนอีก 150-160 แห่ง เนื่องจาก 2 สาเหตุ คือ 1.ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง และพื้นที่ทหารเรือ 2.มีการเปลี่ยนแปลงอาคารสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะผู้เช่าที่ดินได้เปลี่ยนแปลงอาคารจากเดิม โดยมีจำนวนมากถึง 70% ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่ของอำเภอจะสำรวจโรงแรมทั้งหมดและนำเข้าสู่ระบบ ส่วนโรงแรมที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้นั้น ผู้ว่าฯตราดมีนโยบายให้มายื่นคำร้องไว้ก่อน และพิจารณาเป็นรายกรณี

ภูเก็ตห้ามราชการพัก-จัดสัมมนา

นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ภูเก็ตมีโรงแรมที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย 425 แห่ง และมีสถานที่พักประเภทอื่น เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ แมนชั่น เปิดบริการห้องพักเป็นรายวันทั้งหมด 1,428 แห่ง ขณะนี้มีผู้ประกอบการได้มาแจ้งขึ้นทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบโรงแรมที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 แล้วจำนวน 1,007 แห่ง ได้แก่ พื้นที่อำเภอเมือง 402 แห่ง กะทู้ 440 แห่ง และถลาง 165 แห่ง

ทั้งนี้ ล่าสุดจังหวัดได้มอบใบอนุญาตให้แก่โรงแรมที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง 6 แห่งทำให้มีโรงแรมอยู่ในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 431 แห่ง ส่วนโรงแรมที่ยังไม่ได้รับอนุญาตกว่า 200 รายนั้น ทางจังหวัดจะดำเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนในข้อหาเปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังได้ออก 4 มาตรการกดดันให้ผู้ประกอบการโรงแรมเข้าสู่ระบบ คือ 1.กำหนดให้หน่วยงานราชการ จัดประชุมสัมมนาในโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเท่านั้น 2.ข้าราชการและบุคลากรที่เดินทางไปราชการจะต้องเข้าพักเฉพาะโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม 3.จังหวัดจะไม่สนับสนุนด้านการขายและการประชาสัมพันธ์แก่โรงแรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และ 4.การพิจารณาอนุญาต/อนุมัติตามกฎหมายต่าง ๆที่โรงแรมเป็นผู้ยื่นคำขอ ให้หน่วยงานขอสำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมประกอบการพิจารณาด้วยทุกครั้ง

พัทยาเข้าระบบแค่ 300 แห่ง

นายสินไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงแรมในเมืองพัทยามีกว่า 2,000 แห่ง รวม 130,000 กว่าห้อง แต่มีใบอนุญาตถูกต้องเพียง 300 กว่าแห่ง หรือ 4 หมื่นกว่าห้องเท่านั้น ซึ่งยอมรับว่าเอกชนไม่ถูกต้อง แต่ปัญหาสะสมมานานเป็น 10 ปี การที่รัฐบาลใช้กฎหมายในการดำเนินการจับกุมและปรับเป็นจำนวนมากสร้างผลกระทบกับผู้ประกอบการมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ปัญหาขณะนี้คือการใช้กฎหมายที่ไม่ผ่อนผัน บางรายอยู่ระหว่างดำเนินการตามประกาศกระทรวงที่ระบุให้ดัดแปลงอาคารให้ถูกต้องภายใน 2 ปี และให้มีใบอนุญาตภายใน 5 ปีก็ยังโดนจับกุม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เอกชนได้พยายามพูดคุยกับอำเภอหรือ จังหวัดให้แยกประเภทของอาคาร กลุ่มแรกคือ สีขาว เป็นกลุ่มที่สร้างถูกระเบียบโรงแรมทุกอย่าง แต่ติดผังเมือง กลุ่มที่ 2 สีเทา คือผิดระเบียบเล็ก ๆน้อย ๆ เช่น บันไดหนีไฟ ความกว้างของทางเดิน และกลุ่มที่ 3 สีดำ คือผิดทุกอย่าง กลุ่มนี้ต้องละไว้ ปรับเป็นขายรายเดือน ขณะที่กลุ่มสีขาวและสีเทาควรอนุโลม ยังไม่จับกุม แม้จะยังไม่มีใบอนุญาตเพราะทุกคนก็ได้แสดงตัวแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการทุกคนก็ต้องการเข้าระบบให้ถูกต้อง แต่ปัญหาคือโดนจับหมด ซึ่งจะกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะว่าห้องราว 1 แสนห้องจะถูกจับหมด ไม่มีให้บริการนักท่องเที่ยว

เชียงใหม่ตรวจจับ-ปรับจริง

นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในเขตอำเภอเมืองมีผู้ประกอบการเข้ามายื่นเพื่อพิจารณาเข้าสู่ระบบมากกว่า 100 ราย ส่วนใหญ่เป็นอพาร์ตเมนต์ และโรงแรมขนาดเล็ก ซึ่งพบว่ากว่า 50% ไม่เข้าข่ายกิจการที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.โรงแรม เช่น โรงแรมบางแห่งเปิดให้บริการ 7-8 ห้องในรูปแบบของโรงแรม ซึ่งเป็นกิจการที่ไม่เข้าลักษณะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารและไม่สามารถประกอบกิจการโรงแรมได้ โดยแนะนำให้ปรับลดจำนวนห้องพักเหลือเพียง 4 ห้อง เพราะหากไม่ถึง 4 ห้องก็ไม่เข้ากฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรม สามารถเปิดเป็นห้องพักรายวันได้ ส่วนกรณีที่ไม่เข้าเกณฑ์หากพบว่ายังคงเปิดกิจการอยู่ก็ต้องปรับ จับ และไม่อนุญาตให้เปิดกิจการต่อไป โดยจะจัดชุดตรวจเดินสายทุก 1 สัปดาห์

ตรังเชือดอพาร์ตเมนต์/แมนชั่น

แหล่งข่าวจากสำนักงานปกครอง อำเภอเมืองตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ในเขตอำเภอเมืองตรังมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องทั้งสิ้น 68 ราย จำนวน 3,123 ห้อง โดยตั้งแต่ปี 2557 ทางจังหวัดได้ดำเนินการตรวจจับและดำเนินคดีอพาร์ตเมนต์และแมนชั่น ที่เปิดให้บริการผิดกฎหมายแล้ว 13 ราย และในปี 2560 ดำเนินคดี 1 ราย ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกดำเนินคดีได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายภิญโญ เต็งรัง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา จ.ตรังกล่าวว่า นโยบายของภาครัฐที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่พักต่าง ๆ มาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามประเภทการให้บริการนั้น ผลกระทบย่อมตกอยู่กับผู้ประกอบการธุรกิจที่พักที่ให้บริการไม่ถูกต้อง เช่น อพาร์ตเมนต์ และแมนชั่น เนื่องจากหลายรายได้เปิดให้เช่ารายวันเหมือนโรงแรม เมื่อเปลี่ยนมาเป็นประเภทโรงแรม ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนต่างของภาษีที่มากพอสมควร

“ปัญหาของธุรกิจห้องพักที่สร้างแล้วไม่ขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก็คือเมื่อลูกค้าเข้าพักแล้วไม่มีการขอบัตรประชาชนหรือหากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ไม่มีการถ่ายเอกสารพาสปอร์ตเก็บไว้และไม่มีการสรุปประจำเดือนส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้น ปัญหาที่ตามมาคือ อาชญากรรมมักเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะอาจเป็นแหล่งซุกซ่อนหรือซ่องสุมกันก็ได้ และยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามความจริงอีกด้วย” นายภิญโญกล่าว

Cr. Prachachat