การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ
การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน มันก็เหมือนกับเหรียญสองด้าน มีทั้งตาดีได้ ตาร้ายเสีย อย่างน้อยที่สุด ไม่ว่าจะลงทุนอะไร ถ้าหากลงมือทำบนหลักการ มากกว่าหลักกู (หมายถึงทำตามความรู้สึกโดยไม่มีข้อคิดเข้ามาเป็นตัวประกอบการตัดสินใจ) โอกาสเสี่ยงก็น่าจะน้อยลง
จากคำถามของคุณเจ้าของกระทู้ ปรึกษาเรื่องการลงทุนโดยหยิบภาวะเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง ข้อคิดเห็นแบบกลาง ๆ นะคะ ว่า เวลาเศรษฐกิจไม่ดี มักจะมีโอกาสเกิดขึ้นเสมอ ไม่ได้ลอยมาจากไหนหรอกค่ะ ก็มาจากนโยบายและมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนจากรัฐบาลนั่นแหละ โดยเฉพาะ ถ้าเป็นการลงทุนโดยใช้เงินกู้ ในด้านอัตราดอกเบี้ยมักจะค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับเวลาเศรษฐกิจเฟื่องฟู
เรื่องนี้ไม่ได้คิดเองเออเองหมอเมตต์ได้สัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับอดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ “อ.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” ณ ตอนนั้นท่านยังเป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติอยู่ ได้รับคำแนะนำว่าดอกเบี้ยต่ำจะยืนภาวะไปอีกหลายปี จึงเป็นโอกาสการลงทุนของคนที่มีเครดิตดี
นอกจากเรื่องดอกเบี้ยต่ำแล้ว ในตัวอสังหาฯ เอง จะมีข้อน่าสนใจคือ ราคาอสังหาฯ มีแนวโน้มคงที่ ขอเน้นว่าอย่างเก่งที่สุดคือราคาคงที่ ถ้าจะขึ้นก็ไม่น่าจะขึ้นมากนัก แต่อย่าไปหวังลมๆ แล้งๆ ว่าราคาอสังหาฯ จะลดฮวบฮาบ เพราะเป็นสินค้าไม่เน่าไม่เปื่อย ขายวันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ไม่ได้ เขาก็เก็บไว้ขายพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้าอยู่ดีค่ะ เพียงแต่อาจจะมีตัวเลือกเยอะขึ้น เพราะสต๊อกที่สร้างไว้แล้วขายไม่ออกน่าจะมีอยู่พอสมควร
ถัดจากเรื่องภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแล้ว สำหรับทุกท่านที่ริอยากจะเป็นนักลงทุน หมอเมตต์สนับสนุนและเอาใจช่วยทุกท่าน หลักการคือจะต้องมีเครดิตที่ดี เพื่อให้สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ หรืออย่างน้อยที่สุดควรจะต้องมีเงินทุนของตัวเองสักก้อนหนึ่ง ไว้สำหรับวางเป็นเงินดาวน์ ปกติมักจะมีราคา 5-10% ของราคาอสังหาฯ
ถือโอกาสแนะนำไปเลยก็แล้วกันค่ะ อยากเห็นในเรื่องการออม ถึงแม้วันนี้ยังไม่คิดจะลงทุน แต่อย่างน้อยถ้าฝึกนิสัยการออม โดยเปิดบัญชีฝากแบงก์ไว้ เดือนละนิดๆ หน่อยๆ หมอเมตต์เคยอ่านหนังสือสมัยสาวๆ ชื่อ “บุรุษผู้มั่งคั่งแห่งบาบิโลน” อ่านทั้งเล่มได้ข้อสรุปที่จำได้ข้อเดียวคือ ให้เก็บเงินออม 10% ของรายได้ ทำได้ทั้งชีวิตก็รวยได้แล้ว เห็นไหมคะ ไม่ต้องกระเบียดกระเสียนอะไรเลย แค่เก็บก้อนเล็กๆ
…อย่านะ อย่าเพิ่งเถียงว่าหนี้สินเยอะแยะ หรือมีธุระจำเป็น มีค่าใช้จ่ายมารอ เพราะถ้าหากให้ความสำคัญกับการออมแล้ว รายได้จะจำกัดจำเขี่ยแค่ไหนคุณก็สามารถออมได้ทุกเดือน เหตุผลที่ย้ำเรื่องนี้หนักหนา เพราะเวลาคุณๆ ต้องการขอสินเชื่อขึ้นมาเมื่อไหร่ โปรดทราบไว้ด้วยว่า การมีเงินออม (ยิ่งมากยิ่งดี) ทางแบงก์เขาชอบ และมองว่าคุณเป็นคนมีเครดิตแล้ว
ถ้ามีเครดิตที่ดี ความมั่นใจในการลงทุนก็จะมากขึ้น มองเห็น “โอกาส” ในการลงทุน ไม่ใช่เห็นแต่ “อุปสรรค”
แถมให้อีกเรื่อง ตอนนี้ (2559) รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง หมอเมตต์จำได้ว่าตอนโอนคอนโดมิเนียมเมื่อปี 50-51 ตอนนั้นมีรัฐประหารสมัย รสช. เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก รัฐบาลก็มีมาตรการกระตุ้นออกมา ทำให้ลดค่าโอนไปได้โข คอนโดฯ ทั้งห้องจ่ายภาษีแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง นี่คือตัวอย่างของ “โอกาส” ในเวลาเศรษฐกิจไม่ดี
ในความเห็นส่วนตัวนะคะ หมอเมตต์มองว่าการซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ก็เหมือนการฝากเงินไว้ในอสังหาฯ เพียงแต่อย่าไปซื้อของที่มีราคาเกินตัว คิดให้รอบคอบว่าถ้ารับโอนมาแล้วผ่อนไหวหรือเปล่า เพราะถ้าไหว ไม่ต้องรอให้เศรษฐกิจแย่หรอกค่ะ เราสามารถลงทุนซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุนได้แม้ในยามเศรษฐกิจเบ่งบาน โชคดีค่ะ
ขอบคุณข้อมูล:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.