• ข้อมูลโครงการ

    • ภาคตะวันออกและภาคกลาง
    • กรุงเทพฯและปริมณฑล
    • ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ
    • ภาคใต้และภาคตะวันตก

  • รีวิว-พรีวิว
    • โครงการบ้านระยอง
    • โครงการบ้านชลบุรี
  • โปรโมชั่น (บ้านดีมีดีล)
    • โปรโมชั่นบ้านระยอง
    • โปรโมชั่นบ้านชลบุรี
  • บทความพิเศษ
    • แนะนำโครงการ/วิเคราะห์ทำเล
      • ทำเลโซน จ.ระยอง
      • ทำเลโซน จ.ชลบุรี
      • ทำเลโซน จ.ฉะเชิงเทรา
      • ทำเลโซน จ.สมุทรปราการ
      • ทำเลโซน จ.กรุงเทพฯ
      • ทำเลโซน จ.นนทบุรี
      • ทำเลโซน จ.ปทุมธานี
    • บทสัมภาษณ์
    • สาระน่ารู้
  • ข่าวอสังหา
    • ข่าว PR
  • บริษัทรับสร้างบ้าน
  • บ้านดีดอทคอม
    • เกี่ยวกับเรา
    • บริการจากบ้านดี
    • งานมหกรรมบ้านดี
    • นิตยสารบ้านดี
    • ติดต่อทีมงานบ้านดี
No Result
View All Result
  • ข้อมูลโครงการ

    • ภาคตะวันออกและภาคกลาง
    • กรุงเทพฯและปริมณฑล
    • ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ
    • ภาคใต้และภาคตะวันตก

  • รีวิว-พรีวิว
    • โครงการบ้านระยอง
    • โครงการบ้านชลบุรี
  • โปรโมชั่น (บ้านดีมีดีล)
    • โปรโมชั่นบ้านระยอง
    • โปรโมชั่นบ้านชลบุรี
  • บทความพิเศษ
    • แนะนำโครงการ/วิเคราะห์ทำเล
      • ทำเลโซน จ.ระยอง
      • ทำเลโซน จ.ชลบุรี
      • ทำเลโซน จ.ฉะเชิงเทรา
      • ทำเลโซน จ.สมุทรปราการ
      • ทำเลโซน จ.กรุงเทพฯ
      • ทำเลโซน จ.นนทบุรี
      • ทำเลโซน จ.ปทุมธานี
    • บทสัมภาษณ์
    • สาระน่ารู้
  • ข่าวอสังหา
    • ข่าว PR
  • บริษัทรับสร้างบ้าน
  • บ้านดีดอทคอม
    • เกี่ยวกับเรา
    • บริการจากบ้านดี
    • งานมหกรรมบ้านดี
    • นิตยสารบ้านดี
    • ติดต่อทีมงานบ้านดี
No Result
View All Result
No Result
View All Result

ข้อควรรู้สัญญาจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์

in ลงทุนอสังหาฯ
209
VIEWS
แชร์ต่อบน Facebookบอกต่อทาง Line

สัญญาซื้อขายทรัพย์สินคือการที่ผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ผู้ซื้อโดยที่ผู้ซื้อต้องชำระราคาทรัพย์สินให้แก่ผู้ขาย ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะโอนไปยังผู้ซื้อได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายได้ทำตามแบบที่กฎหมายกำหนดนั่นก็คือ ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กระบวนการนี้เป็นลักษณะของการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แต่ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นตามกฎหมายได้มีบัญญัติไว้อีกหนึ่งสัญญาที่น่าสนใจคือ สัญญาจะซื้อจะขาย

สัญญาจะซื้อจะขายคือ ?

สัญญาจะซื้อจะขาย หรือ คำมั่นในการซื้อขาย คือ สัญญาซื้อขายซึ่งคู่สัญญาตกลงทำกันไว้ในวันทำสัญญาโดยตกลงกันว่าจะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์หรือทำการซื้อขายตามแบบของกฎหมายอีกครั้งในอนาคต การทำสัญญาจะซื้อจะขายจึงเป็นสัญญาที่ไม่มีผลให้กรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ซื้อ ข้อสำคัญคือ เจตนาในการทำสัญญา คู่สัญญาต้องมีเจตนาที่จะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์กันในภายหน้า หากไม่มีเจตนาดังกล่าวนี้แล้วสัญญาที่ทำกันจะกลายเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด และเมื่อเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดที่กฎหมายต้องการแบบที่ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ การมีเพียงสัญญาเป็นหนังสือจึงทำให้สัญญาซื้อขายนี้เป็นโมฆะ ไม่ทำให้กรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ซื้อแม้ผู้ซื้อจะชำระราคาถูกต้องครบถ้วนแล้วก็ตาม

การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคที่ราคาสูงนั้น หลังจากเจอบ้านที่ถูกใจและตกลงราคา วันที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์กับผู้ขายแล้ว ผู้ซื้อบางคนต้องการที่จะไปทำเรื่องกับธนาคารก่อน ดังนี้ กฎหมายจึงได้บัญญัติสัญญาจะซื้อจะขายขึ้นมาเพื่อป้องกันสิทธิของผู้จะซื้อและผู้จะขาย

จุดประสงค์ของสัญญาจะซื้อจะขาย

สัญญาจะซื้อจะขายคือ การให้คำมั่นแก่กันว่าจะทำการซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์กันในอนาคตเป็นการแน่นอน กฎหมายบัญญัติขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดแก่คู่สัญญาในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา เช่น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้จะขายนำทรัพย์สินตามสัญญาไปขายให้แก่บุคคลอื่น เพื่อป้องกันผู้ซื้อไม่ชำระราคาทรัพย์สินให้แก่ผู้ขายและไม่ยอมรับโอนอันอาจทำให้ผู้ขายเสียโอกาสในการขายให้แก่ผู้อื่น เป็นต้น

สัญญาจะซื้อจะขายเป็นสัญญาที่กฎหมายไม่ได้กำหนดแบบเอาไว้ เพียงแค่คู่สัญญาตกลงโดยถูกต้องตรงกันว่าจะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ในภายหน้าก็มีผลเกิดเป็นสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว ซึ่งเจตนาดังกล่าวเป็นเจตนาสำคัญในการทำสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งนี้ ควรมีรายละเอียดในการซื้อขายภายในสัญญาด้วย

รายละเอียดในสัญญาจะซื้อจะขาย

  1. คู่สัญญา

รายละเอียดของคู่สัญญาเป็นรายละเอียดของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น ชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ซึ่งผู้ทำสัญญาอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ เป็นการบอกว่าใครเป็นผู้ซื้อและใครเป็นผู้ขาย

  1. อสังหาริมทรัพย์ที่ตกลงซื้อขายกัน

รายละเอียดของทรัพย์สินที่ตกลงกันว่าจะซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์แก่กัน ในการบอกรายละเอียดของทรัพย์นั้นจำเป็นต้องบอกอย่างเฉพาะเจาะจงว่าเป็นทรัพย์ชิ้นใด เช่น เลขที่โฉนด เลขที่ดิน บ้านเลขที่ เนื้อที่กี่ตารางวา เป็นต้น

  1. ราคาที่ตกลงกันและวิธีการชำระราคา

รายละเอียดของราคาทรัพย์ว่าจำนวนเท่าไร ควรบอกทั้งเป็นตัวเลขและตัวอักษรเพื่อความถูกต้องรวมถึงควรระบุไว้ด้วยว่าจะชำระราคากันโดยวิธีใด อย่างไร เช่น ชำระโดยแคชเชียร์เช็ค ครึ่งหนึ่งในวันทำสัญญา อีกครึ่งหนึ่งจะชำระในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ ที่ที่ดิน เป็นต้น

  1. กำหนดเวลาการไปโอน

ในสัญญาต้องมีการระบุว่าคู่สัญญาจะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์กันในภายหน้า ดังนั้น จึงอาจกำหนดวันที่ที่แน่นอน หรือ กำหนดเป็นระยะเวลาก็ได้ เช่น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันจะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทำสัญญา เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่มีกฎหมายระบุระยะเวลาที่ต้องไปทำการโอน แล้วแต่ตามที่คู่สัญญาจะตกลงกัน

  1. ค่าธรรมเนียมการโอนและภาษี

การโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมีค่าธรรมเนียมการโอนที่กฎหมายไม่ได้บังคับว่าใครเป็นผู้มีหน้าที่จ่าย คู่สัญญาสามารถตกลงกันได้ว่าฝ่ายใดจะจ่ายเท่าใด อาจจะแบ่งชำระกันคนละครึ่งก็ได้

  1. เงื่อนไขและข้อตกลงอื่นๆ

คู่สัญญาอาจมีเงื่อนไขหรือข้อตกลงในการซื้อขายกันเพิ่มเติมก็ได้ เช่น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินกว่าที่ตกลงกัน อาจตกลงกันในเรื่องของดอกเบี้ยหรือค่าเสียหายเพิ่มเติมในสัญญาฉบับนี้ได้

  1. ความรับผิดหากผิดสัญญา

ความรับผิดของฝ่ายที่ผิดสัญญา ข้อนี้อาจใส่เข้ามาในสัญญาหรือไม่ก็ได้เนื่องจากมีกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้ว แต่หากเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการทำสัญญาจะใส่ความรับผิดของผู้ที่ผิดสัญญาก็ได้ เช่น หากผิดสัญญายินยอมให้อีกฝ่ายฟ้องร้องบังคับตามกฎหมาย เป็นต้น

  1. ลงลายมือชื่อ

ในสัญญาจะซื้อจะขายต้องลงลายชื่อของคู่สัญญาเป็นสำคัญเพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดีกันซึ่งจำเป็นต้องมีลายมือชื่อของผู้ที่ต้องรับผิด รวมถึงมีลงลายมือชื่อพยานในการทำสัญญาอีกสองคน ทั้งนี้การลงลายมือชื่อนั้นต้องใช้มือในการเขียนเท่านั้น จะใช้ตราประทับหรือพิมพ์ไม่ได้

นอกจากรายละเอียดต่างๆที่ปรากฎในสัญญาแล้ว เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์ที่ต้องมีการจดทะเบียนในการทำนิติกรรมจึงทำให้มีเอกสารต่างๆเยอะแยะมากมาย การมีเอกสารแนบท้ายสัญญาเพื่อชี้เฉพาะในทรัพย์สินหรือรายละเอียดต่างๆในสัญญาก็จะทำให้สัญญานั้นสมบูรณ์มากขึ้น

เอกสารแนบท้ายสัญญา

โดยหลักแล้วจะเป็นรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการซื้อขายกัน เช่น

  • โฉนดที่ดิน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • แผนผังโครงการ
  • แบบบ้าน
  • รายการวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้างบ้าน

 

(ตัวอย่างหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย)

เมื่อทำสัญญาจะซื้อจะขายกันเรียบร้อยแล้ว คู่สัญญามีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญา หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามสัญญา ถือว่าฝ่ายนั้นผิดสัญญา

ผลของการผิดสัญญาจะซื้อจะขาย

กรณีที่ผู้ซื้อผิดสัญญา อาจเกิดจากการที่ผู้ซื้อไม่ทำราคาให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้ขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำที่ผู้ซื้อได้ชำระไว้ หรือ ผู้ขายจะดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีให้ผู้ซื้อปฏิบัติตามสัญญาก็ได้

กรณีที่ผู้ขายผิดสัญญา อาจเกิดจากการที่ผู้ขายไม่ยอมไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อตามวันเวลาที่ตกลงกัน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญา ให้ผู้ขายคืนเงินมัดจำทั้งหมดให้แก่ผู้ซื้อรวมถึงชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้ซื้อ หรือ ผู้ซื้อจะดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาก็ได้

การฟ้องร้องบังคับคดี

การฟ้องร้องบังคับคดีกันตามสัญญาจะซื้อจะขาย กฎหมายกำหนดให้ต้องมีหลักฐานในการฟ้องร้องอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

  • หลักฐานเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อผู้รับผิด

หลักฐานเป็นหนังสือเช่นว่านี้ก็คือสัญญาจะซื้อจะขายที่คู่สัญญาได้ทำต่อกันไว้ หรืออาจเป็นเอกสารอื่นที่คู่สัญญาใช้ในการสื่อสารโต้ตอบกันโดยมีเนื้อความถึงการจะซื้อจะขายในอสังหาริมทรัพย์และมีการแสดงเจตนาว่าจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่กันในภายภาคหน้า อาจมาในรูปแบบของจดหมายก็ได้ ขอแค่มีเนื้อความว่าจะซื้อขายกัน จะโอนกรรมสิทธิ์กัน และมีการลงลายมือชื่อของผู้รับผิด ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดีได้

  • วางประจำ หรือ เงินมัดจำ

ผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำไว้เพื่อเป็นประกันว่าจะซื้ออสังหาริมทรัพย์จากผู้ขายในภายหน้า ต้องวางมัดจำ ในวันที่ทำสัญญาเท่านั้น หากวางเงินหลังจากวันที่ทำสัญญาจะไม่เรียกว่าเงินมัดจำ แต่อาจเป็นการชำระหนี้บางส่วนได้ กฎหมายไม่บังคับว่าต้องวางมัดจำเท่าใด ตามแต่ที่คู่สัญญาจะตกลงกัน เสื่อมีการวางเงินมัดจำแก่กันแล้ว หลักฐานการวางเงินก็สามารถใช้เป็นหลักฐานการฟ้องร้องบังคับคดีได้

  • การชำระหนี้บางส่วน

คือการที่ผู้ซื้อชำระราคาบางส่วนให้แก่ผู้ขาย อาจตกลงกันว่าจะชำระกันเป็นงวดๆ รวมถึงชำระราคาทั้งหมดก็ถือเป็นการชำระหนี้บางส่วน หลักฐานการชำระเงินนั้นสามารถนำมาเป็นหลักฐานการฟ้องร้องบังคับคดีได้

สัญญาจะซื้อจะขายถือเป็นสัญญาที่สำคัญในการทำนิติกรรมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ศาลฎีกาได้ตัดสินให้สัญญาจะซื้อจะขายเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อขายด้วย รายละเอียดที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายจึงสามารถบังคับใช้ได้ในการทำสัญญาซื้อขายกันในวันโอนกรรมสิทธิ์ ดังนั้น การทำสัญญาจะซื้อจะขายนอกจากเป็นการทำเพื่อป้องกันอีกฝ่ายผิดสัญญาแล้ว ยังมีผลผูกพันคู่สัญญาไปจนตลอดจนกว่าจะทำการซื้อขายการเสร็จสิ้น

 

เรียบเรียงบทความ “ข้อควรรู้สัญญาจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์”

โดย ทีมงาน บ้านดี (www.baan-d.com)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  

 Line ID : @baan-d 

Share20Share

Related Posts

5 ข้อดี ของการซื้อบ้าน-คอนโด ช่วง Grand Opening
ลงทุนอสังหาฯ

5 ข้อดี ของการซื้อบ้าน-คอนโด ช่วง Grand Opening

22/11/2024
150
รู้จักสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์
ลงทุนอสังหาฯ

รู้จักสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์

30/08/2019
36
ยื่นแสดงภาษีมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่ออย่างไร
ลงทุนอสังหาฯ

ยื่นแสดงภาษีมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่ออย่างไร

30/08/2019
135
ขั้นตอนการขอโฉนดที่ดินใหม่
ลงทุนอสังหาฯ

ขั้นตอนการขอโฉนดที่ดินใหม่

30/08/2019
25



บ้านดี (Baan-D)

บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ


“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”


หมวดหมู่

  • รีวิวโครงการบ้านและคอนโด
  • แนะนำโครงการ/วิเคราะห์ทำเล
  • บทสัมภาษณ์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์ (PR)
  • ข่าวอสังหาฯ
  • สาระน่ารู้เรื่องบ้าน


รีวิวโครงการบ้าน

  • โครงการบ้านชลบุรี
  • โครงการบ้านระยอง
  • โครงการบ้านกรุงเทพฯ
  • โครงการบ้านสมุทรปราการ
  • โครงการบ้านนนทบุรี
  • โครงการบ้านปทุมธานี


บ้านดีดอทคอม

  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการจากบ้านดี
  • งานมหกรรมบ้านดี
  • นิตยสารบ้านดี
  • ติดต่อทีมงานบ้านดี
  • คำสงวนสิทธิ์


หมวดหมู่

  • รีวิวโครงการบ้านและคอนโด
  • แนะนำโครงการ
  • บทสัมภาษณ์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์ (PR)
  • ข่าวอสังหาฯ
  • สาระน่ารู้เรื่องบ้าน


รีวิวโครงการบ้าน

  • โครงการบ้านชลบุรี
  • โครงการบ้านระยอง
  • โครงการบ้านกรุงเทพฯ
  • โครงการบ้านสมุทรปราการ
  • โครงการบ้านนนทบุรี
  • โครงการบ้านปทุมธานี


บ้านดีดอทคอม

  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการจากบ้านดี
  • งานมหกรรมบ้านดี
  • นิตยสารบ้านดี
  • ติดต่อทีมงานบ้านดี
  • คำสงวนสิทธิ์


บ้านดี (Baan-D)

บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ

“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”

บ้านดีดอทคอม

@baan-d บ้านดีชลบุรี | บ้านดีระยอง | บ้านดีกรุงเทพ | บ้านดีนนทบุรี

Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.

Baan-D Channel

@baan-d

บ้านดีชลบุรี

บ้านดีระยอง

บ้านดีกรุงเทพ

บ้านดีนนทบุรี

Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • ข้อมูลโครงการ
    • กรุงเทพฯ
    • ชลบุรี
    • ระยอง
    • สมุทรปราการ
  • รีวิว-พรีวิว
    • โครงการบ้านชลบุรี
    • โครงการบ้านระยอง
  • โปรโมชั่นบ้าน (บ้านดีมีดีล)
    • โปรโมชั่นบ้านระยอง
    • โปรโมชั่นบ้านชลบุรี
  • บทความพิเศษ
    • แนะนำโครงการ/วิเคราะห์ทำเล
    • บทสัมภาษณ์
    • สาระน่ารู้เรื่องบ้าน
  • ข่าวอสังหา
  • ข่าว PR
  • บริษัทรับสร้างบ้าน
  • บ้านดีดอทคอม
    • เกี่ยวกับเรา
    • บริการจากบ้านดี
    • งานมหกรรมบ้านดี
    • นิตยสารบ้านดี
    • ติดต่อทีมงานบ้านดี

Copyright © 2018-2025 Baan-D.com. All rights reserved.