นักวิชาการชื่อดัง “มานพ พงศทัต” แนะรัฐบาลยุค “ประยุทธ์” ปลดล็อกเกียร์ว่างก่อนเกิดรัฐบาลชุดใหม่ เสนอแก้ปัญหาคั่งค้าง แก้ พรบ.ร่วมทุนจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 10,000 หมื่นล้าน ขยายสัญญาเช่าเป็น 90 ปี เพิ่มเพดานต่างชาติถือครองอสังหาฯ จาก 49% เป็น 75% แต่จำกัดสิทธิที่ดินเขตเกษตรกรรม มูลค่าซื้ออสังหาฯ ต้องสูง ชงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวผ่านโครงการเมกะโปรเจกต์ แนะปัดฝุ่นโครงการ “ภูเก็ต เบย์” บูมท่องท่องเที่ยว สู้สิงคโปร์
ศ.ดร.มานพ พงศทัต ผู้ทรงคุณวุฒิ ภาควิชาเคหะการ คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่เหลือก่อนจะมีการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากที่มีลงคะแนนการรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไปแล้วนั้นว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีสภาพเหมือนการเข้าเกียร์ว่าง ดังนั้น รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ดีขึ้น ด้วยการเร่งรัดอนุมัติ 3 โครงการที่ยังคั่งค้างให้แล้วเสร็จ ได้แก่
“ต้องขอบคุณรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำตามคำมั่นสัญญาอยู่ 2 ปี แล้วจะนำความสุขมาให้ประเทศไทย แต่ช่วงนี้จะต้องปลดเกียร์ว่างก่อน เพื่อให้กระบวนการกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าไปก่อนที่จะมีรัฐบาชุดใหม่เข้ามา ซึ่งตนอยากให้รัฐบาลชุดนี้เห็นชอบอนุมัติใน 3 โครงการที่ยังค้างอยู่ต่อให้แล้วเสร็จด้วย” ศ.ดร.มานพ ผู้เชี่ยวชาญในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กล่าว และว่า
และเมื่อรัฐบาลสามารถแก้ล็อกเรื่องดังกล่าวได้แล้ว ก็อยากให้รัฐบาลเดินหน้าประกาศความชัดเจนในด้านการลงทุนรถไฟทางคู่ที่จะร่วมทุนกับต่างประเทศให้รับทราบด้วย รวมไปถึงแผนดำเนินการพัฒนาในเขตพื้นที่โซนตะวันออก ประกาศอีก 6 เขต ซึ่งตนเรียกว่า Eastern Seaboard Economic Development Corridor เพิ่มอีกจาก 10 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ สระบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และระยอง จากที่ก่อนหน้านี้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันวิจัยเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) นัดหมายกลุ่มผู้นำทางธุรกิจ (เจ้าสัว) เพื่อหารือ และรับฟังความคิดเห็นในการพัฒนาระบบราง และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก่อนที่จะมีการเปิดรับฟังความเห็นนักลงทุน (มาร์เกตซาวดิ้ง) อย่างเป็นทางการต่อไป
สิ่งสำคัญของการพัฒนาประเทศ ตนอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการวางพื้นฐานฐานเมกะโปรเจกต์ ซึ่งทั่วโลกใช้เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนของประเทศไทยนั้น ตนคิดว่า ควรให้แต่ละจังหวัดมีความโดดเด่นในเรื่องโครงการเมกะโปรเจกต์ อาทิ จังหวัดภูเก็ต ควรที่จะมีโมโนเรลเข้าไปใน อ.เมือง ด้วย ไม่ใช่มีเฉพาะที่สนามบิน และการพัฒนาโซนทางเหนือของเกาะภูเก็ต ให้เป็นศูนย์นิทรรศการ รวมไปถึงการพัฒนาเกาะภูเก็ต ให้เป็น “ภูเก็ต เบย์” ด้วยการขุดลอกให้เป็น 3 เกาะ เพื่อพัฒนาให้เป็น “เดอะ มารีน่า ซิตี้ ออฟ ภูเก็ต” ทัดเทียมกับประเทศสิงคโปร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก
“แนวคิด ภูเก็ต เบย์ นั้น เคยเกิดขึ้นในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช และได้ผ่านกระบวนศึกษาข้อมูลในความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการ รวมไปถึงผ่านการจัดทำรายงานเรื่องอีไอเอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่โครงการดังกล่าวก็ต้องสะดุดลง เพราะในช่วงนั้น มีการผลัดเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย จึงไม่มีรัฐบาลไหนเข้ามาดำเนินการต่อ ดังนั้น หากรัฐบาลนี้จะเข้าไปดำเนินการต่อก็จะเป็นเรื่องที่ดี และคงต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท จากในยุคนั้น คาดใช้งบประมาณ 60,000 ล้านบาท”
ขอบคุณข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.