หลังจากที่เราพอจะทราบสาเหตุที่ทำให้ “ขาดทักษะในการขาย” เนื่องจากขาดประสบการณ์การขายบ้านที่มักไม่ได้ทำกันบ่อยๆเราจึงควรทบทวนตัวเองเมื่ออยู่ในสถานะของ “คนซื้อบ้าน” เพื่อนำมาเรียนรู้
ดังนั้นหากต้องการขายบ้านให้ได้ง่ายต้องเรียนรู้ทักษะในการขายจากปัจจัยเหล่านี้
คนซื้อบ้านเป็นใคร จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า บ้านหลังที่ 1, 2 และ 3 นั้นคนซื้อบ้านจะมีพฤติกรรมในการตัดสินใจเลือกซื้อที่แตกต่างกัน ศักยภาพทางการเงินก็แตกต่างกัน ช่วงอายุก็แตกต่างกัน โดยเราต้องมาดูบ้านเราก่อนว่าบ้านที่เราซื้อมาเราจะขายใคร หรือคนกลุ่มไหน เช่นหากเป็นบ้านครอบครัว มีหลายห้องนอน หลังใหญ่หน่อยโอกาสที่เราจะขายให้คนซื้อที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกก็จะเป็นเรื่องยากเพราะอาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
และให้ข้อมูลของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ต้องมีรูปแบบในการข้อมูลที่แตกต่างกัน เมื่อเรากำหนดกลุ่มลูกค้าเจอแล้วว่าเป็นกลุ่มไหน เราต้องพยายามให้ข้อมูล นำเสนอข้อมูลให้ตรงใจ อาทิเช่น
กลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านหลังแรก
จะเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยเริ่มทำงาน ก็ต้องการที่พักใกล้แหล่งงาน มีที่จอดรถสะดวก มีสาธารณูปโภคทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ก็จะยิ่งดี ทำเลควรอยู่ใกล้กับแหล่งของกินเพราะจะสะดวกในการหาซื้อของกิน ของใช้ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มักจะไม่ทำอาหารทำครัวเพื่อรับประทานเนื่องจากอยู่คนเดียวการที่มีบ้านอยู่ในทำเลของกินจึงถือเป็นข้อได้เปรียบ และบ้านควรอยู่ในพื้นที่ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ เป็นต้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านเพื่อสร้างครอบครัว
เป็นกลุ่มที่มีสมาชิกหลายคนอยู่ร่วมกันดังนั้นทำเลของบ้านควรจะต้องนำเสนอ นอกจากใกล้แหล่งงานแล้ว หากมีโรงเรียนอยู่บริเวณนั้นก็จะเป็นข้อได้เปรียบ รวมกระทั่งโรงพยาบาลในกรณีที่ครอบครัวมีเด็กเล็ก หรือ ญาติผู้ใหญ่มาพักอาศัยด้วย ก็จะยิ่งสะดวกและทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ นอกจากนี้ มุมห้องครัว ซักล้าง ก็ควรถ่ายรูปภาพให้ชัดเจนเพราะถือว่าเป็นพื้นที่ของ แม่บ้านที่ต้องการพื้นที่ส่วนนี้ ห้องน้ำชั้นล่างที่กว้างพอสมควรสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกในบ้าน สนามหญ้าหรือบริเวณโดยรอบบ้านเพื่อให้เด็กๆได้มีพื้นที่
กรณีข้างต้นถือเป็นตัวอย่างในการนำเสนอข้อมูลให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย แต่สุดท้ายต้องกลับมาถามตัวเองว่า เราเคยซื้อบ้านหลังนี้เพราะอะไร
เช่น ชอบพื้นที่ห้องครัวใหญ่ หรือมีลานซักล้างไว้ตากผ้า หรือจอดรถได้หลายคัน ดังนั้นการนำเสนอจึงต้องพยายามแสดงถึงจุดเด่นของบ้านทั้งการเขียนอธิบายด้วยข้อความและการถ่ายรูปในมุมต่างๆ
ซึ่งการนำเสนอข้อมูลที่ดีนั้น สามารถสังเกตได้โดยง่ายจากผู้เชี่ยวชาญในการขายบ้าน นั่นก็คือ เจ้าของโครงการหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม และแน่นอนว่าเราไม่สามารถทำรายละเอียดได้มากเท่ากับ เจ้าของโครงการเพราะเขาทำเป็นอาชีพ และมีทีมงาน แต่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการขายบ้านเราได้ เช่น การนำเสนอ แผนที่การเดินทาง การให้รายละเอียดสถานที่สำคัญๆในบริเวณรอบโครงการ การถ่ายภาพว่ามุมไหนที่ทำให้ภาพออกมาดูดี เป็นต้น
ตัวอย่างการนำเสนอการขายของโครงการ
(อ่านรีวิวโครงการในพื้นที่จังหวัดระยอง)
(อ่านรีวิวโครงการในพื้นที่จังหวัดชลบุรี)
ผมมั่นใจว่าเกือบ 100% ของคนที่ตัดสินใจซื้อบ้านต้องมีการหาข้อมูลเพื่อนำมาเปรียบเทียบ โดยการค้นหา “ข้อมูล” เพื่อประกอบการตัดสินใจนั้นต้องใช้เวลาค้นหา ทั้งในส่วนของราคา สภาพบ้าน รวมถึงข่าวสารต่างๆที่มีผลกระทบต่อการซื้อขายบ้าน ดังนั้นหากมีการขายบ้านในย่านเดียวกันหลายหลัง จะทำให้เราสามารถปิดการขายได้ง่ายกว่า หลายท่านอาจจะสงสัย ว่ายิ่งมีคู่แข่งเยอะก็ทำให้เราขายลำบาก แต่ในความเป็นจริงแล้วหากมีคู่แข่งน้อย คนซื้อบ้านจะเริ่มไม่มั่นใจเพราะไม่มีตัวเปรียบเทียบ
พฤติกรรมคนส่วนใหญ่ต้องการเป็น “ผู้เลือก” เพราะถ้ามีบ้านขายเหลืออยู่หลังเดียวจะรู้สึกว่า “โดนมัดมือชก” เลือกไม่ได้แม้แต่โครงการใหญ่ๆยังต้องพยายามงัดกลยุทธ์เพื่อมาขายบ้านหลังท้ายๆของโครงการเช่น โปรโมชั่นพิเศษ …บลา บลา …..ก่อนปิดเฟส เหลือ 3 หลังสุดท้ายเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหากเราต้องขายบ้านในละแวกนั้นอยู่หลังเดียวแล้วจะขายไม่ได้ ถ้าบ้านเราดีจริง ราคาสมเหตุสมผล ก็สามารถขายได้ แต่กระบวนการตัดสินใจจากพฤติกรรมคนซื้ออาจจะใช้เวลานานกว่าการที่มีตัวเลือกเท่านั้นเอง
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงช่องทางการเข้าถึง ลูกค้าที่ซื้อบ้านเราควรมาทำความเข้าใจกับคุณสมบัติพิเศษสำหรับพฤติกรรมของคนซื้อบ้านที่มีความแตกต่างจากพฤติกรรมเลือกสินค้าอื่นๆอย่างสิ้นเชิง
ช่องทางในการให้ข้อมูลไปยังผู้ซื้อบ้านจึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถสื่อสารข้อมูลไปยังกลุ่มคนซื้อบ้านที่มีความพิเศษดังกล่าว ดังนั้น การประกาศผ่านทางทีวี ที่คนสามารถเห็นเป็นจำนวนเยอะๆได้ หรือแม้แต่เว็บไซต์ที่คนเข้าชมเยอะๆก็ใช่ว่าจะสามารถทำให้ขายบ้านได้
ช่องทางในการประชาสัมพันธ์ที่น่าสนใจมีหลากหลายช่องทางดังนี้
บ้านดีดอทคอม มีช่องทางสำหรับประชาสัมพันธ์ฝากขายบ้าน ฟรี!! ถึง 3 ช่องทาง อ่านรายละเอียด
ถือว่าเป็นศิลปะขั้นสุดท้ายที่จำเป็นอย่างยิ่งในการขายบ้าน ทั้งการใช้วาทศิลป์ การเจรจาต่อรอง ซึ่งหากเราไม่มีความชำนาญทางด้านนี้ก็อาจใช้บริการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นตัวแทนรับฝากขายบ้าน โดยเสียค่าใช้จ่ายบางส่วนให้กับตัวแทนขายบ้าน อย่างไรก็ตามการปิดการขายนั้นจะต้องเกิดจากการวางแผนในการขายด้วย ไม่ใช่ว่าคนซื้อบ้านต้องการ “ ข้อมูล ” ของบ้านที่ประกาศขายมาเปรียบเทียบอย่างเดียว แต่คนขายบ้านก็ต้องค้นหา “ ข้อมูล ” เพื่อนำมาวางแผน อาทิเช่น ราคาที่เราประกาศขายใกล้เคียงกับราคาตลาดหรือไม่ หากสูงกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องลดราคาแต่เราต้องนำเสนอ “จุดเด่น” ของบ้านออกมาให้เด่นชัด
สรุปการขายบ้านให้คนแย่งกันซื้อ เราต้องเข้าใจ
เพื่อแสดงให้เห็น “จุดเด่น” ของบ้านเราออกมาให้ได้
บทความโดย
บ้านดีดอทคอม (www.baan-d.com)
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.