ธปท. ย้ำ NPL พีก ไตรมาส 4 ห่วงหนี้บ้าน

ธปท.ประเมินเอ็นพีแอลสูงสุดไตรมาสที่ 4 ทะลุเกิน 3% จับตาหนี้เสียเอสเอ็มอี-สินเชื่อบ้านไหลต่อ กระทบกำไรแบงก์หด

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ยังคงคาดการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะแตะระดับสูงสุดภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ เนื่องจากยังมีธุรกิจบางกลุ่มที่เห็นสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นอยู่ แต่โดยภาพรวมอัตราการเร่งเริ่มชะลอตัวอยู่ที่ 2.97% โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2 อยู่ในระดับ 2.95%

ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมเอ็นพีแอลทั้งปีน่าจะอยู่ในระดับเกิน 3% ภายใต้อัตราการขยายตัวสินเชื่อใกล้เคียงที่ระดับ 4% จากไตรมาสที่ 3 เติบโต 3.3% โดยสินเชื่อธุรกิจเติบโต 2.2% ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) 2.4% สินเชื่ออุปโภคบริโภค 5.6%

อย่างไรก็ตามสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ยังคงเห็นการไหลและยังต้องจับตามอง จะเป็นสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เพิ่มขึ้นจาก 4.42% ในไตรมาสที่ 2 มาอยู่ที่ 4.63% โดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีกค้าส่งรายเล็กที่ยังคงมีอัตราการเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก การท่องเที่ยว และบริการเห็นอัตราการเติบโตดีขึ้น

กลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เอ็นพีแอลปรับขึ้นจาก 3.06% มาอยู่ที่ 3.26% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันปล่อยสินเชื่อในช่วง 3-4 ปีก่อน ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 12-13% ภายใต้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก ทำให้ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในจังหวะขาขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถผ่อนชำระได้ จึงเห็นสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ดี ปัจจุบันภาพการแข่งขันเริ่มลดลงจากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อภายใต้การใช้โปรโมชันที่ขยายการใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวมากขึ้น ทำให้อัตราการเติบโตสินเชื่อขยายตัวเป็นปกติอยู่ที่ 5.6%

“แนวโน้มกำไรแบงก์ปีนี้ น่าจะลดลงจากปีก่อน เพราะมีค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองเพิ่มจากหนี้ที่ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นและในปี 2561 จะเริ่มเห็นแรงกดดันมากขึ้นต่อรายได้ค่าธรรม เนียมการโอนเงิน”

ขอบคุณข้อมูล :  thansettakij