สกพอ. เปิดแผนการใช้ประโยชน์ในที่ดินอีอีซี 1.36 แสนไร่ มอบให้กรมโยธาฯ ไปเร่งจัดทำผังเมืองรวมให้เสร็จภายใน 6 เดือน รับการลงทุนในช่วงต้นปีหน้า เผย มีที่ดินแนวรถไฟความเร็วสูงต้องเวนคืนที่ดิน 857 ไร่ และก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ต้องเวนคืนที่ดิน 40 เมตร ตลอดระยะทาง 300 กิโลเมตร
แผนการใช้ประโยชน์ในที่ดินในภาพรวมได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) แล้ว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองฯ ร่วมกับ สกพอ. เร่งจัดทำผังเมืองให้เสร็จภายใน 1 ปี
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ กพอ. ยืนยันว่า การจัดทำผังเมืองรวมน่าจะเสร็จต้นปี 2562
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมของการใช้ประโยชน์ในที่ดิน สำหรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่นำไปสู่การจัดทำผังเมืองรวม 3 จังหวัด และก่อให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ จะมีการใช้พื้นที่รวมอยู่ราว 1.36 แสนไร่ ซึ่งยังไม่รวมพื้นที่การเวนคืนที่ดินในโครงการต่าง ๆ โดยการใช้ประโยชน์ที่ดินในช่วง 5 ปีแรก (ปี 2560-2564) จะประกอบด้วย เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ 4 เขต ได้แก่ 1.เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซีไอ พื้นที่ 3,302 ไร่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง , 2.เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล หรือ อีอีซีดี พื้นที่ 829 ไร่ บริเวณ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี , 3.เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก พื้นที่ 6,500 ไร่ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง
4.เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน พื้นที่ 7,853 ไร่ ตลอดแนวเส้นทางระยะทาง 220 กิโลเมตร และอาจจะต้องเวนคืนที่ดินบางส่วนบริเวณสถานีพญาไท ฉะเชิงเทรา ลาดกระบัง ศรีราชา และอู่ตะเภา ประมาณ 857 ไร่
นอกจากนี้ ยังมีเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ 21 เขต เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ครอบคลุมพื้นที่ 86,775 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเอกชนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จากการประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่า ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะมีความต้องการใช้พื้นที่รองรับการลงทุนอีกราว 2 หมื่นไร่ ซึ่งจะต้องพิจารณาประกาศเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จะดำเนินการถมทะเลราว 1,600 ไร่ และในอนาคตจะมีการขยายเขตท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 4 เพิ่มอีก เพื่อรองรับสินค้าจากภูมิภาค CLMV ส่วนท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะใช้พื้นที่ถมทะเล 1 พันไร่
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการพัฒนารถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ โดยในส่วนการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ช่วงศรีราชา-ระยอง และระยอง-มาบตาพุด , ช่วงระยอง-จันทบุรี-ตราด , ช่วงคลองสิบเก้า-อรัญประเทศ , ช่วงท่าแฉลบ-พานทอง ระยะทาง 300 กิโลเมตร จะใช้ที่ดินเวนคืนใหม่ในเขตทางประมาณ 40 เมตร
ขณะที่ กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทในพื้นที่อีอีซี ที่จะมีการก่อสร้างทางหลวงใหม่ เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายแหลมฉบัง-ปราจีนบุรี-นครราชสีมา ต้องอาศัยเขตทางใหม่ โดยจะมีการเวนคืนที่ดินใช้เขตทางกว่า 100 เมตร รวมทั้งการพัฒนาเมืองใหม่อัจฉริยะน่าอยู่ โดยจะใช้พื้นที่ราว 1.55 หมื่นไร่ อีกทั้งในส่วนของการพัฒนารองรับศูนย์กลางโลจิสติกส์แนวทางรถไฟสายแก่งคอย-คลองสิบเก้า-ฉะเชิงเทรา และฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง อีกราว 1,500 ไร่
ขอบคุณข้อมูล : thansettakij
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี – สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี – สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.