วันนี้มาว่ากันด้วยข้อมูลสถิติทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ เริ่มจากเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าโครงการในอีอีซีว่า เดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางแผนไว้ โดยจะเป็นเกตเวย์สู่ภูมิภาคเอเชียและเชื่อมต่อทั้งโลก ทำให้ไทยและประเทศภูมิภาคนี้กลายเป็นประเทศที่เติบโตดีที่สุดในโลกในช่วง 15 ปีข้างหน้า มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 7-8% ต่อปี การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะระบบราง 3,000 กิโลเมตร มูลค่า 5 แสนล้านบาท เชื่อมโยงไทยและเพื่อนบ้าน กลุ่มซีแอลเอ็มวีทีที่มีขนาดประชากรกว่า 230 ล้านคน และเชื่อมต่อบังกลาเทศ ซึ่งกำลังเจรจาเอฟทีเอกับไทย และเชื่อมกับจีนและอินเดียที่มีประชากรกว่า 2,600 ล้านคน ซึ่งโครงการใหญ่ทุกโครงการจะต้องเปิดประมูลและเซ็นสัญญาผู้ลงทุนให้ได้ภายในปีนี้ หรือต้นปี 2562 ก่อนเลือกตั้ง มูลค่าลงทุนรวมขณะนี้กว่า 7 แสนล้านบาท และอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท
นอกจากโครงการลงทุนที่จะลงในพื้นที่อีอีซีแล้ว ต่อไปก็จะมีโครงการพัฒนาในพื้นที่ภาคใต้ หรือที่เรียกว่า “พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้” ซึ่ง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า ในวันที่ 20-21 สิงหาคมนี้ รัฐบาลจะประชุมครม.สัญจร ที่จ.ระนองและชุมพร โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สศช. จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ควบคู่กับโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้
อีกเรื่องหนึ่งที่น่ายินดีและชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทยที่ดีขึ้นก็คือการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่ง กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยข้อมูลภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปีนี้ว่าจะเติบโต 7-10% นับเป็นปีที่มีการเติบโตมากอีกปีหนึ่ง และมีการเติบโตทุกตลาด ตามปัจจัยเศรษฐกิจไทยที่ปีนี้ขยายตัวดีขึ้น จากการที่ภาครัฐมีความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจัยเงินบาทที่อ่อนค่าลงและการท่องเที่ยวก็ได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง จึงคาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านอยู่ในระดับ 6 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 7 แสนล้านบาทในสิ้นปีนี้ ขณะที่ไตรมาสแรก สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่มียอดรวม 1.5 แสนบาท
อีกด้านหนึ่ง สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้เปิดเผยจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 11,454,211 คน เพิ่มขึ้น 17.11% เมื่อเทียบกับวันที่ 1 มกราคม 2557 ที่มี 9,781,101 คน สะท้อนให้เห็นถึงการจ้างงานในระบบแรงงานของประเทศไทยยังคงขยายตัวตามทิศทางของการพัฒนาประเทศ ขณะที่อัตราการเลิกจ้างผู้ประกันในเดือนมิถุนายน 2561 มี 23,707 ราย คิดเป็นอัตราการถูกเลิกจ้างงานที่ 0.207% เทียบกับเดือนมกราคม 2561 ที่อัตรา 0.222% แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการถูกเลิกจ้างงานลดลงต่อเนื่อง และอยู่ในระดับตํ่า เมื่อเทียบกับในช่วงปี 2559-2560
ขอบคุณข้อมูล : thansettakij
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.