ธอส+ออมสิน เตรียมแผน สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

รีเวิร์ส มอร์ทเกจ (Reverse Mortgage) – สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ : รับลูก “รีเวิร์ส มอร์ทเกจ”

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมจะปล่อยสินเชื่อสำหรับการสร้างโครงการขนาดใหญ่ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นแบบคอนโดมิเนียม เพื่อสร้างสังคมผู้สูงอายุ ในบริเวณรอบสนามบินของจังหวัดหัวเมืองใหญ่ มีระบบดูแลสุขภาพ การเรียกรถพยาบาล การสร้างกิจกรรมให้ผู้สูงอายุ คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้เพื่อสนองนโยบายของกระทรวงการคลังและรองรับสังคมผู้สูงอายุในช่วง 10-15 ปีข้างหน้า การดำเนินโครงการนี้ ธอส.จะร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ดำเนินการ

นายฉัตรชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ ตามที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) นั้น ทาง ธอส.จำเป็นต้องศึกษากฎหมายจัดตั้ง ธอส.ให้ชัดเจนว่า หากจะดำเนินการจะต้องแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร การปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ผู้ต้องการขอสินเชื่อต้องนำหลักทรัพย์คือ บ้าน มาค้ำประกันสินเชื่อ ธนาคารอาจจะให้วงเงินสินเชื่อประมาณ 50-70% จากนั้นจะส่งเงินให้ผู้ขอสินเชื่อเป็นรายเดือน ระยะเวลา 15-20 ปี และต้องแยกพิจารณาอายุเพศ หญิง ชาย เนื่องจากประเมินว่าผู้หญิงอายุสูงกว่าชาย คนชราอายุประมาณ 74-78 ปี ธอส.ได้เตรียมวงเงินรองรับโครงการดังกล่าวประมาณ 3-5 พันล้านบาทต่อปี คาดว่าจะเสนอโครงการให้ ครม.พิจารณาได้ในเร็วๆ นี้

ชงคลังเสนอแพคเกจเข้าครม.

“รีเวิร์ส มอร์ทเกจ จะเป็นหนึ่งโครงการดำเนินการเพื่อให้สอดรับกับสังคมผู้สูงอายุ จะหารือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ในโครงการก่อสร้างหนึ่งอาจจะมีบ้านผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 10-20% ของจำนวนที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ธอส.ยังหารือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของภาครัฐ เอื้อต่อผู้สูงอายุมากขึ้น” นายฉัตรชัยกล่าว

นายฉัตรชัยกล่าวว่า บ้านผู้สูงอายุต้องไม่มีพื้นที่ต่างระดับ บันไดไม่สูงมาก และวัตถุที่นำมาสร้างบ้านต้องปลอดภัย กลุ่มอายุที่จะซื้อบ้านดังกล่าวคืออายุ 50 ปีขึ้นไป ธอส.สามารถให้กู้ได้ถึงอายุ 70 ดังนั้นยังมีเวลาผ่อนชำระ 20 ปี หรือลูกหลานอาจจะซื้อให้พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย อยู่ก็ได้

เท่าที่ ธอส.หารือกับผู้ประกอบการ 2-3 ราย ผู้ประกอบการเห็นด้วยจะมาร่วมพัฒนาโครงการลักษณะนี้ ธอส.อาจจะมีให้ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนกู้เงินในโครงการนี้ ในการประชุม แบงก์รัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือในเบื้องต้นไปแล้ว มีธนาคารรับผิดชอบคือ ธอส.และออมสิน ในส่วน ธอส.คาดว่าภายในเดือนมิถุนายนจะเสนอแนวทางทั้งหมดไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อให้กระทรวงการคลังรวบรวมจัดทำเป็นแพคเกจเสนอไปยัง ครม.

ธนาคารออมสิน : คิดทำโมเดลสินเชื่อใหม่สำหรับรีเวิร์ส มอร์ทเกจ

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินพร้อมดำเนินการรีเวิร์ส แพคเกจ กำลังคิดโมเดลปล่อยสินเชื่อว่าจะเป็นรูปแบบใด ในเบื้องต้นอาจให้กู้ 80% ของมูลค่าบ้านในปัจจุบัน จะแตกต่างจากแนวคิดที่เคยมองกันไว้ว่าต้องประเมินมูลค่าบ้านในอนาคตไปด้วย เพราะออมสินจะกำหนดให้การกู้เงินในลักษณะนี้ต้องมีทายาทเพื่อมารับส่วนต่างของบ้านกับเงินกู้ในอนาคตจะเน้นในกลุ่มลูกค้าเดิมของธนาคารมีการผ่อนชำระดีมาตลอด ส่วนลูกค้าต่างธนาคารต้องมีข้อแม้คือบ้านต้องปลอดจำนอง

“สินเชื่อในลักษณะนี้แทนที่ออมสินจะรับเงินจากผู้กู้เป็นรายเดือน เปลี่ยนเป็นจ่ายเงินให้ผู้กู้เป็นรายเดือนจนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิต ขณะนี้กำลังทำโมเดลสินเชื่อเพื่อออกเป็นผลิตภัณฑ์เงินกู้ใหม่ คาดว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะเสนอไปยังกระทรวงการคลังให้พิจารณาได้” นายชาติชายกล่าว

ประกันเล็งคลอดเกณฑ์ดูแล รองรับรีเวิร์ส มอร์ทเกจ

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังศึกษาร่วมกับหลายหน่วยงานในเรื่อง รีเวิร์ส มอร์ทเกจ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย เปิดทางผู้สูงอายุที่มีบ้านและที่ดินสามารถนำมาเป็นหลักประกันสินเชื่อกับ สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต จากนั้นนำส่งรายได้ให้คนชราเป็นรายเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต จะเปิดทางให้ทายาทมาซื้อกลับคืนไปหรือสถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิตนำบ้านไปขายทอดตลาด

แนวทางทั้งหมดกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษา คปภ.ต้องหารือกับหลายหน่วยงาน ทั้งบริษัทประกันชีวิต ประกันวินาศภัย เพื่อหาหลักเกณฑ์ในการควบคุมดูแล เนื่องจากคนสูงอายุเป็นโสดเริ่มมีจำนวนมากในสังคมไทย บริษัทประกันจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารองรับความต้องการของประชาชน นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย จึงต้องส่งเสริมแนวทางดังกล่าว

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า นับเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยในการแปลงสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ เป็นเงินและหากบริษัทประกันชีวิตรับค้ำประกันสินเชื่อดังกล่าวแล้ว ในส่วนของบริษัทประกันวินาศภัยจะเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องการค้ำประกัน ทรัพย์สินตัวบ้านจากการขอสินเชื่อ ระยะเวลา 10-20 ปี และจะทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุเข้าถึงระบบประกันมากขึ้น เพราะในต่างประเทศมีสินเชื่อดังกล่าวเป็นจำนวนมากในประเทศพัฒนาแล้ว จึงต้องรอดูผลสรุปหลักเกณฑ์ทั้งหมดของกระทรวงการคลัง

ที่มา: นสพ.มติชนรายวัน
ที่มา: ประชาชาติธรุกิจ