ร.ฟ.ท.เดินหน้าเปิดเวทีระดมความเห็นชาวชลบุรี ศึกษารถไฟไร้รอยต่อเชื่อม 3 สนามบินหลัก งบ 2.8 แสนล้าน เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมขนส่งครบวงจร รองรับ EEC เปิดเอกชนลงทุนปี 61 แล้วเสร็จปี 66 นี้
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่โรงแรมเอเชียพัทยา จ.ชลบุรี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) งานศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสม โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการ แนวเส้นทางโครงการ รูปแบบการก่อสร้าง และประโยชน์ของโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชนเข้าร่วมการสัมมนากว่า 300 คน
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ เป็นหนึ่งในแผนงานสำคัญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและลอจิสติกส์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ทั้งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ โดยในส่วนของระบบราง (Rail) ได้รับการบรรจุไว้ในแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2560-2561 จำนวน 5 แผน ได้แก่ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. 2.รถไฟเชื่อต่อท่าอากาศยานดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 50.5 กม. และ 3.รถไฟรางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอย และการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา
อย่างไรก็ตาม พบว่าหลายโครงการมีความซ้ำซ้อน และสามารถเชื่อมต่อเพื่อให้เข้าสู่ระบบเดียวกันได้ จึงได้นำโครงการที่เกี่ยวข้องมาผนวกรวมกัน พร้อมนำเสนอแผนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-พัทยา-มาบตาพุด รวมทั้งการปรับปรุงสถานีหลักที่มักกะสัน ให้กลายเป็น EEC Gateway ที่มีความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน
สำหรับรูปแบบโครงสร้างของโครงการนั้นจะใช้รางของรถบบ Airport Link เดิมบางส่วน ซึ่งมีขนาดความกว้างของรางที่ 1.435 เมตร (standard Gauge) 2 ช่วง คือ พญาไท-ดอนเมือง และลาดกระบัง-ระยอง ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้ เพียแต่อาจใช้ความเร็วได้เฉลี่ย 160 กม./ชม. ก่อนต่อเชื่อมรางเพื่อให้ครบตามเส้นทางที่กำหนดที่จะทำให้รถมีความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ก่อนมีการเปิดใช้ต่อไป โดยการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน จะช่วยสนับสนุนการเดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง จะส่งผลให้การค้าการลงทุน ของ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เนื่องจากเส้นทางพาดผ่านนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในหลายๆ พื้นที่ ทำให้ความเจริญนั้นไม่กระจุกตัวอยู่เพียงในเมืองใหญ่เท่านั้น และยังช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย เนื่องจากโครงการดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางระหว่างท่าอากาศยาน ไปสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ได้สะดวก และรวดเร็ว รวมทั้งจะช่วยลดการจราจรคับคั่งในบางพื้นที่ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรอบ โดยเมื่อการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงนี้กว่า 1.6 แสนคน/วัน
ด้าน นายจุลเทพ จิตสมบัติ วิศวกรศูนย์ปรับปรุงทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าสำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา-มาบตาพุด นั้น ปัจจุบันได้มีการศึกษา และจัดทำรายงานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงได้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคสังคมเพื่อนำเสนอแนะมาบรรจุรวมในแผน ก่อนจะนำเสนอต่อคณะทำงานของ EEC ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งคงจะสามารถนำเสนอได้ภายในช่วงเดือนกันยายนนี้ จากนั้นก็จะมีการเปิดประมูลให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน ในงบประมาณกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามแผนแล้วการดำเนินการโครงการดังกล่าวจะเริ่มการก่อสร้างในปี 2561 และจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้างประมาณ 5 ปี โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566 นี้
ขอบคุณข้อมูล MGR Online
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.