นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่มพลังงานทดแทนหลัก ๆ อาทิ แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ และได้พัฒนาจนถือได้ว่า อยู่ลำดับต้นๆ ของกลุ่มประเทศในระดับอาเซี่ยนแล้วนั้น กระทรวงพลังงานพบว่า ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการภาคเอกชนได้สนใจและเริ่มลงทุน การผลิตไฟฟ้าจากกระแสน้ำ (Hydro kinetic electrical generation system) ซึ่งเป็นเทคโนโลยพลังงานทดแทนที่ใช้กังหันน้ำสร้างพลังงานจากการเคลื่อนไหวของน้ำ โดยแรงดันของน้ำจะส่งผลให้ใบพัดกังหันหมุน ซึ่งหากกระแสน้ำไหลแรงเท่าไร แรงหมุนของใบพัดก็จะแรงขึ้น โดยการหมุนของใบพัดดังกล่าวจะทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้า
ทั้งนี้ เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกระแสน้ำนี้ เป็นเทคโนโลยีที่ไม่มีความซับซ้อน ซึ่งขณะนี้ได้มีภาคเอกชน ได้ประยุกต์และเริ่มทดลองลงทุนติดตั้งระบบไว้แล้ว 2 จุด ประกอบด้วย ในบริเวณแพกลางแม่น้ำ จ.หนองคาย และในทะเล ที่พัทยา จ.ชลบุรี เป็นโครงการนำร่อง ขนาดกำลังผลิตประมาณ 330 กิโลวัตต์ โดยถือเป็นพลังงานทดแทนที่สร้างขึ้นจากการไหลของแม่น้ำในธรรมชาติ ซึ่งโดยปกติเทคโนโลยีนี้ ต้องการการไหลของน้ำอยู่ที่ 2.2 เมตรต่อวินาที และการผลิตพลังงานทดแทนจากกระแสน้ำนี้ จะสามารถผลิตพลังงานได้คงที่ และอาจจะผลิตได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อลดข้อจำกัดของพลังงานทดแทน ซึ่งปัจจุบันต่อ 1 เมกะวัตต์ จะต้องลงทุนประมาณ 300- 350 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าในอนาคตต่อไป
ขอบคุณข้อมูล:กระทรวงพลังงาน
ขอบคุณรูปภาพ: Chonburiindex
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.