ฉายแววโต “หัวหิน-ภูเก็ต-พัทยา” ทำเลซื้อดักอนาคต

เข็มนาฬิกาเดินเร็วกว่าที่คิด ใกล้จะสิ้นปีอีกแล้ว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้เห็นความพยายามของผู้ประกอบการที่จะขับเคลื่อนกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ล่าสุดเป็นคิวของธุรกิจโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ 2 ค่าย “พลัส พร็อพเพอร์ตี้-ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย)”

ที่ดูเหมือนใจตรงกัน ออกมาส่งสัญญาณตลาดอสังหาฯเมืองตากอากาศน่าซื้อน่าลงทุน

นักท่องเที่ยวฉายแววโต

“อนุกูลรัฐพิทักษ์สันติ”รองเอ็มดีบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือแสนสิริ ระบุว่า สำรวจตลาดอสังหาฯเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลยังมีความน่าสนใจ แม้ภาพรวมปัจจุบันไม่หวือหวา

แต่มีแนวโน้มที่ดีสำหรับการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะ 3 หัวเมืองหลักอย่าง “หัวหิน-ชะอำ-ภูเก็ต” มองว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเปิดเส้นทางการบินมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นหลายเส้นทางเช่นจีนอินเดียปากีสถาน

ทำเลหัวหิน-ชะอำแม้ภาพรวมอสังหาฯชะลอตัว แต่ด้านการท่องเที่ยวยังไปได้ดี สถิติปี”58 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนหัวหิน 3 ล้านคน สูงกว่าปีก่อนหน้า 3% โซนที่เป็นแหล่งพำนักนักท่องเที่ยวจึงมีการตอบรับ 72% ของซัพพลายเสนอขาย ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร

เติบโตอย่างต่อเนื่อง หากซื้อเพื่อการลงทุนก็มีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าโซนหัวหิน-ฝั่งเขาตะเกียบ 7.6% โซนชะอำ 6.7% ต่อปี (ดูตารางประกอบ) เป็นดีมานด์ระยะสั้นชาวต่างชาติ 90% ที่นิยมมาพักผ่อนกับครอบครัว 1-2 เดือน โดยเฉพาะยุโรป อาทิ รัสเซีย สวีเดน เดนมาร์ก เป็นต้น อีก 10% เป็นกลุ่มคนทำงานในพื้นที่ทำเลภูเก็ตสำรวจตลาดเดือนมีนาคม-สิงหาคม 59 มีเปิดตัวใหม่ 9 โครงการ รวม 1,363 ยูนิต เป็นคอนโดมิเนียม 933 ยูนิต จาก 5 โครงการ บ้านเดี่ยว 231 ยูนิต จาก 2 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 199 ยูนิต

จาก 2 โครงการ ทุกตลาดมียอดขายรวม 50% สำหรับผลตอบแทนปล่อยเช่าทำเลท่องเที่ยวติดหาดอยู่ที่ 10-12% ต่อปี ทำเลในเมือง 7-9% ต่อปี

สต๊อกคอนโดฯชะอำเพียบ

สอดรับกับข้อมูลของ”พจมาน วรกิจโภคาทร” ผอ.การตลาดและงานขายโครงการที่อยู่อาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย จำกัด สำรวจคอนโดฯในหัวหิน พบว่าซัพพลายทำเลชะอำ-เขาเต่าช่วง 10 ปี (2550-2559) มีจำนวน 23,400 ยูนิต มีอัตราการขาย 78% เพิ่มขึ้นจาก 74% เมื่อสิ้นปี 2558 และมี 5,200 ยูนิตที่ยังว่างอยู่

โดยหน่วยรอขายอยู่ในเขตชะอำ 16,058 ยูนิต หรือเกือบ 70% ของซัพพลายทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ โดยซัพพลายที่เติมเข้ามาในพื้นที่เป็นของ 3 โครงการ คือ ลุมพินี ซีวิว 1,130 ยูนิต, เดอะคอลเลคชัน 308 ยูนิต และแซนซารา ห้องชุดเพื่อคนวัยเกษียณในสนามกอล์ฟแบล็คเมาน์เทน เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าชาวต่างชาติจากสวีเดน อังกฤษ ออสเตรเลีย

ขณะที่ทำเลซัพพลายต่ำอยู่ด้านในไม่ติดทะเล อยู่ในซอยฝั่งเลขคู่ 5% ของซัพพลายรวม

กำลังซื้อจีนหนุนตลาดพัทยา

อีกทำเลเป็นของตลาดพัทยา ทางไนท์แฟรงค์ยอมรับว่าคาดการณ์ได้ยาก ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีเปิดตัวใหม่เพียง 182 ยูนิต มีซัพพลายรวม 60,696 ยูนิต อัตราการขาย 66% หรือ 2,876 ยูนิตที่ขายออก จุดสังเกต มีการจัดแคมเปญการันตีผลตอบแทนซื้อลงทุนปล่อยเช่า 5-7% 3 ปีแรก

สำหรับคอนโดฯติดทะเลราคาเพิ่มขึ้น 2% จาก 117,466 บาท/ตารางเมตรในปีที่แล้ว มาอยู่ที่เฉลี่ย 119,795 บาท/ตารางเมตร ในช่วงครึ่งปีแรก เที่ยบกับคอนโดฯวิวติดทะเล-ซิตี้วิว ราคาค่อนข้างคงที่ 67,900 บาท และ 66,925 บาท/ตารางเมตร

แนวโน้มซัพพลายใหม่กระจุกโซนหาดจอมเทียน 37% รองลงมาทำเลพัทยาใต้ 16% และวงศ์อมาตย์ 14% ขณะที่แนวโน้มดีมานด์ “ริษิณี สาริกบุตร” หัวหน้าฝ่ายวิจัยของไนท์แฟรงค์ ระบุว่า ผู้ซื้อกลุ่มใหม่คือชาวจีนทดแทนลูกค้าชาวรัสเซียที่หดหายไป โดยนักท่องเที่ยวจีนเข้าพัทยาเพิ่ม 15.45% สวนทางกับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียลดลง -50%

พฤติกรรมการช็อปคอนโดฯ นักลงทุนจีนเลือกซื้อแบบฟูลลี่เฟอร์นิช ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท/ยูนิต

ขอบคุณข้อมูลจาก : Prachachat