ทุนไทย-เทศ ทั้งจีน-ญี่ปุ่นดาหน้าลงทุนโรงแรมเพิ่มรับท่องเที่ยวบูม สวนกระแสห้องพักโอเวอร์ซัพพลาย เผย “ภูเก็ต-เมืองชล” ยอดฮิต ทั้งกลุ่มท้องถิ่น-ค่ายใหญ่ “เซ็นทรัล” ส่งแบรนด์ “โคซี่” บุก “สมุย-หัวหิน-ภูเก็ต” ส่วนดิ เอราวัณ กรุ๊ปดัน “ฮ็อป อินน์” แข่งค่ายซี.พี.-บีทู-สหพัฒน์-ชาญอิสสระ
กลุ่มธุรกิจนักลงทุนยังสนใจลงทุนธุรกิจโรงแรมต่อเนื่อง แม้หลายพื้นที่จะมีการแข่งขันกันรุนแรง แต่กระแสบูมการท่องเที่ยวบวกกับภาครัฐกำลังเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่วงเงินรวมนับล้านล้านบาท เพื่อกระจายความเจริญสู่หัวเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยวทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เท่ากับโอกาสทางการตลาดเปิดกว้างให้สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากการลงทุนในระยะยาว
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากการสำรวจพบว่าปี 2559 ที่ผ่านมาการลงทุนใหม่ในธุรกิจโรงแรมโดยกลุ่มทุนทั้งรายใหญ่ รายเล็ก จากส่วนกลาง และในท้องถิ่น ทั้งทุนไทยทุนต่างชาติเคลื่อนไหวลงทุนคึกคัก โดยเฉพาะหัวเมืองหลักและเมืองท่องเที่ยวทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมขยายตัวต่อเนื่องแม้จะไม่เติบโตหวือหวา
“ภูเก็ต” แชมป์ โรงแรมใหม่พรึ่บ
จากการตรวจสอบสถิติการยื่นขออนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) พบว่าปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการยื่นอีไอเอให้สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณารวมแล้วกว่า 150 ราย โดยจังหวัดที่มีการขอก่อสร้างโรงแรมมากที่สุด คือ ภูเก็ต มีมากกว่า 50 ราย ชลบุรี มากกว่า 20 แห่ง รอง ๆ ลงมาจังหวัดละ 4-5 แห่ง เช่น เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี พังงา ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น นครราชสีมา กระบี่ กาญจนบุรี ระยอง เป็นต้น ในจำนวนนี้มีทั้งกรณีขอใบอนุญาตเพื่อสร้างโรงแรมใหม่ การขออนุญาตในส่วนของการต่อขยายและดัดแปลง และเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารเพื่อสร้างเป็นโรงแรม
พิจารณาลงในรายละเอียดพบว่า ผู้ที่ยื่นขอใบอนุญาตมีทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่น รายเล็กรายใหญ่ ทั้งไทยและต่างประเทศ สำหรับรายใหญ่ อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล ในนามของ บจ.โคซี่ โฮเทล จะเปิดโรงแรมโคซี่ สมุย เฉวง กลุ่มเอราวัณ กรุ๊ป ภายใต้ บจ.เอราวัณ ฮ็อป อินน์ ลงทุนโรงแรมฮ็อป อินน์ หัวหิน และฮ็อป อินน์ ภูเก็ต ขณะที่ บมจ.ซี.พี.แลนด์ ธุรกิจอสังหาฯในเครือ ซี.พี. ก็จะเปิดโรงแรมฟอร์จูน แกรนด์ ที่อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช
ส่วนธุรกิจร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทสหพัฒน์และอิสสระ ในนามของ บจ.ร่วมอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ มีแผนจะเปิดโรงแรม 2 โครงการ คือ โรงแรมบ้านทิวทะเล และโรงแรม 3 ชั้น ที่อำเภอชะอำ เพชรบุรี ขณะที่กลุ่มตระกูลพงศธร ในนาม บจ.พรีเมียร์ รีสอร์ท แอนด์ โฮเทลส์ จะเปิดโรงแรมรายา เฮอริเทจ ที่อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ หรือโครงการยู อเวลา หัวหิน ในนามของ บจ.เซนต์เจมส์ โฮเต็ล ของตระกูลฮุนตระกูล
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนไทย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเวียดนาม บจ.เคเอส รีสอร์ท แอนด์ สปา เตรียมจะเปิดโรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน, บริษัทร่วมทุนไทย-สิงคโปร์ บจ.วัน ไพโอเนียร์ กรุ๊ป จะเปิดโรงแรมยานไพโอเนียร์ ที่อำเภอเมืองภูเก็ต, กลุ่มทุนจากประเทศญี่ปุ่น บจ.มารุทายะ เรียลเอสเตท (ประเทศไทย)จำกัดเจ้าของโครงการมารุทายะ โฮเทล อำเภอศรีราชา ชลบุรี รวมทั้งมีกลุ่มทุนจีน คือบจ.ไทย เฟย ต๋า ทราเวล เจ้าของโครงการโกลเด้น ดราก้อน บีช โฮเทล ที่อำเภอบางละมุง ชลบุรี
เซ็นทรัล-เอราวัณส่งแบรนด์เล็กบุก
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา หรือเซ็นเทล ผู้บริหารโรงแรมเครือเซ็นทาราทั้งในภูเก็ต พัทยา และสมุย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังเครือเซ็นทาราได้พัฒนาแบรนด์โรงแรมราคาประหยัดขึ้นมาใหม่ ภายใต้ชื่อ “โคซี่” (COSI) จะเริ่มให้บริการที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี เป็นแห่งแรก ตามด้วยพัทยาเร็ว ๆ นี้ ส่วนภูเก็ตก็เป็นหนึ่งในจุดหมายของแบรนด์โคซี่เช่นกัน
เหตุผลที่ผู้ประกอบการยังสนใจลงทุนสร้างโรงแรมตามเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะภูเก็ตและพัทยานั้น หลัก ๆ เพราะพัทยาอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดจีนและรัสเซีย ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ตลาดเริ่มฟื้นตัวแล้ว หลังจากที่ตัวเลขตกลงไปจากปัจจัยค่าเงินรูเบิลและการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ พัทยายังเป็นรอยต่อของอีสเทิร์นซีบอร์ด และคนในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ นิยมมาพักผ่อนที่พัทยาและศรีราชา และการที่พัทยาอยู่ใกล้สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะเป็นสนามบินนานาชาติในอนาคตเอื้อกับธุรกิจโรงแรมด้วย ส่วนภูเก็ตยังเป็นเดสติเนชั่นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลหลายจุด และสามารถเดินทางเชื่อมต่อได้อย่างสะดวก ทั้งกระบี่ พังงา
“ปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนยังสนใจจะลงทุนและพัฒนาโรงแรมทั้งในภูเก็ตและพัทยาอย่างต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมา หลายฝ่ายอาจมองว่า ทั้ง 2 เมืองนี้ มีโรงแรมจำนวนมากอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกหลายโซนที่มีพื้นที่ให้เข้าไปพัฒนาได้ เช่น ภูเก็ต ก็ยังมีหาดกมลา หรือพัทยา ตอนนี้ก็ไม่กระจุกแค่พัทยาเหนือ-กลาง-ใต้ แต่เริ่มกระจายไปยังแถบจอมเทียนด้วย”
ขณะที่นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า ภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายที่บริษัทสนใจขยายธุรกิจเพิ่มเติม แต่จะต้องดูเป็นโลเกชั่นไปว่าโลเกชั่นไหนเหมาะสม เพราะตอนนี้ภูเก็ตมีซัพพลายโรงแรมค่อนข้างมาก และมีโรงแรมใหม่ที่ยังทยอยเปิดอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ประกอบการบางรายตัดสินใจขายกิจการโรงแรม หากบริษัทจะเข้าไปลงทุน คงใช้โมเดลซื้อโรงแรมเก่ามาพัฒนาต่อ ส่วนพัทยา บริษัทก็มีที่ดินอยู่ติดกับโรงแรมไอบิสพัทยา และอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะพัฒนาอย่างไรต่อ
ด้านนายสรรเพชร ศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคตะวันออกตั้งข้อสังเกตว่า ประเด็นที่ผู้ประกอบการโรงแรมในพัทยาเข้ายื่นขอ EIA มากขึ้นนั้น อาจเป็นโรงแรมเก่าที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว และยังตกค้างอยู่นอกระบบ มีความประสงค์ยื่นขอ EIA เพื่อทำโรงแรมให้ถูกกฎหมายมากกว่า ประเมินเบื้องต้น พบว่าโรงแรมที่เพิ่งสร้างใหม่และใกล้เปิดให้บริการในเมืองพัทยา มีเพียงไม่กี่แห่ง
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาลงทุนโรงแรมในเมืองพัทยา ช่วงนี้เงียบ ๆ ไป หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายจัดระเบียบทัวร์ผิดกฎหมาย ยังรอจังหวะตลาดนักท่องเที่ยวจีนในไทยในเมืองพัทยาฟื้น เพราะสุดท้ายแล้ว กลุ่มทุนจีนก็ยังมองว่าท่องเที่ยวไทยมีโอกาสเติบโต โดยกลุ่มทุนจีนแห่เข้ามาลงทุนทำโรงแรมทั้งในพัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่จนบูมมาก ๆ ตั้งแต่ปลายปี 2558
โรงแรมภูเก็ตโตรับนักท่องเที่ยว
นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า โรงแรมในภูเก็ตตอนนี้โอเวอร์ซัพพลาย มีจำนวนห้องพักกว่า 2 แสนห้อง เทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยว 13 ล้านคน โดยเฉลี่ยปีนี้เข้าพักจริง 45% เฉลี่ยเข้าพัก 3-5 วันต่อคน ส่วนนักลงทุนยังสนใจภูเก็ตเพราะศักยภาพของจังหวัด แต่นักลงทุนมือใหม่ลงทุนลำบาก แข่งขันสูงมาก ซึ่งในจำนวนนักลงทุน 30% เป็นคนท้องถิ่น อีก 70% เป็นคนนอกพื้นที่ ปัจจุบันโอกาสการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังถือว่าเติบโตได้ดี ถ้าเป็นมืออาชีพมีประสบการณ์จะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเข้ามาลงทุนหวังกำไรระยะสั้นแล้วสร้างความเสียหายไม่ยินดีต้อนรับ
ด้านนายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการสำรวจมีโรงแรมขึ้นทะเบียนถูกต้องได้รับใบอนุญาต 424 แห่ง มีห้องพักขึ้นทะเบียนถูกต้อง 45,740 ห้อง และมีข้อมูลสถานที่พักประเภทอื่นเปิดขายห้องพักรายวัน 1,428 แห่ง ซึ่งจังหวัดเปิดโอกาสให้มาขึ้นทะเบียนภายใน 31 มกราคม 2560 เข้าสู่ระบบแล้ว 1,007 แห่ง
“ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติ มีโรงแรมที่ผ่านตรวจสอบเข้าสู่ระบบโรงแรมที่ถูกกฎหมายจำนวน 12 แห่ง จะประกาศผลในการประชุมกรรมการจังหวัด ส่วนโรงแรมที่ผิดกฎหมาย แจ้งให้หยุดการให้บริการแล้ว จากนี้จะดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนเปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต”
ด้านนายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส จำกัด ที่ปรึกษาด้านธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ เปิดเผยว่า ปีนี้น่าจะมีเจ้าของโรงแรมอิสระในภูเก็ตเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ในเครือโรงแรม (เชน) ระดับนานาชาติมากขึ้นกว่าปี 2559 ที่มีโรงแรมเปลี่ยนใช้แบรนด์ 6 แห่ง รองรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
จากการสำรวจข้อมูลโรงแรมมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตรวม 1,744 แห่ง รวมห้องพัก 8.17 หมื่นห้อง และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 32 แห่ง รอเปิดบริการจากนี้ จนถึงปี 2563 จะทำให้ห้องพักในภูเก็ตเพิ่มขึ้น 5,584 ห้อง จะเปิดตัวในปีนี้ 13 แห่ง รวม 1,704 ห้อง ด้านการเติบโตของนักท่องเที่ยว และโรงแรมในภูเก็ต 10 ปี (ปี 2550-2559) พบว่านักท่องเที่ยวโต 11% ต่อปี จำนวนห้องพักโต 9% ต่อปี
เชียงใหม่ยันไม่โอเวอร์ซัพพลาย
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยว่า ช่วง 5 ปีนี้ ยังคงมีการลงทุนธุรกิจโรงแรมในเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีโรงแรมมากถึง 2,000 แห่ง ทั้งโรงแรมใหม่ขนาดเล็ก โฮสเทล เกสต์เฮาส์ เฉพาะในเขตพื้นที่เมืองเก่า หรือสี่เหลี่ยมคูเมือง คาดว่ามีโฮสเทลและเกสต์เฮาส์ 300-400 แห่ง จากที่เคยสำรวจจากฐานโรงแรม 600 แห่งมีห้องพัก 40,000 ห้อง หากนับรวมกับโรงแรมที่ลงทุนใหม่จะมีมากกว่า 40,000 ห้องสถานการณ์ในภาพรวมถือว่ายังไม่ถึงขั้นโอเวอร์ซัพพลาย การลงทุนโรงแรมที่เพิ่มขึ้นมากนั้น มาจากปัจจัยการเติบโตตามการท่องเที่ยวที่โตขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปี โดยในปี 2559 นักท่องเที่ยวเติบโตมากถึง 13% แต่อย่างไรก็ตาม ก็ค่อนข้างน่ากังวลถึงภาวะโอเวอร์ซัพพลายที่อาจเกิดขึ้น
Cr. prachachat
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
บ้านดี (Baan-D)
บ้านดีดอทคอม ศูนย์รวมข้อมูลบ้านและคอนโด พร้อมรีวิวเจาะลึกโครงการฯ วิเคราะห์ทำเลที่พักอาศัย และอัพเดทข่าวสารในแวดวงอสังหาฯ
“บ้านดี - สื่อกลางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและขายบ้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.
Copyright © 2018 Baan-D.com. All rights reserved.