กลุ่มอสังหาฯส่อแววไตรมาส 3 กำไรทรุดโครงการใหม่สะดุด

โบรกฯคาดกำไรสุทธิกลุ่มอสังหาฯไตรมาส 3 ส่งสัญญาณต่ำสุดรอบปี หลังอิทธิฤทธิ์มาตรการรัฐปิดโครงการ ขณะที่ Backlog หดตัว โครงการใหม่เปิดตัวล่าช้า คาดกำไรทั้งปีนี้ลดลงจากปีก่อน 0.63% เหตุต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น ฟาก “ทริสเรทติ้ง” มอนิเตอร์เข้มครึ่งปีหลัง หวั่นผู้ประกอบการรายเล็กกระทบหนักสุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการประเมินคาดว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในงวดไตรมาส 3/2559 น่าจะเป็นช่วงต่ำสุดของปี โดยกำไรสุทธิรวมของกลุ่มอาจจะลดลงอย่างมากจากไตรมาส 2 ที่ทำได้ประมาณ 11,045 ล้านบาท จากสาเหตุหลักคือไม่มีมาตรการอสังหาฯของภาครัฐมาช่วยกระตุ้นเหมือนช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งได้ทำให้เกิดการเร่งขายและยอดโอนมากขึ้น โดยในอีกด้านหนึ่งก็ทำให้งานในมือ (Backlog) น้อยลง

“ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ภาคอสังหาฯได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯของภาครัฐ จึงทำให้เดือน เม.ย. ที่มียอดโอนที่รับรู้จำนวนมาก เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายของมาตรการ ส่วนในไตรมาส 3 นี้ คาดว่าผลประกอบการกลุ่มนี้อาจจะไม่ดีนัก เนื่องจาก Backlog น้อยลง” นายเทิดศักดิ์กล่าว

โดยปัจจุบันทุกบริษัทในกลุ่มอสังหาฯมี Backlog รวมกันประมาณ 1.65 แสนล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลงจากช่วงต้นปีซึ่งมีจำนวน 1.76 แสนล้านบาท หลังผู้ประกอบการแต่ละรายมียอดโอนออกไปจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนมีการชะลอการเปิดโครงการใหม่ ๆ ออกไป โดยเฉพาะโครงการแนวสูง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ Backlog ปัจจุบันอยู่ในระดับที่น้อยลงเรื่อย ๆ จากที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 2 แสนกว่าล้านบาท ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการของกลุ่มจะกลับมาพีก (ขึ้นสูงสุด) อีกครั้งในช่วงไตรมาส 4/2559 ตามปัจจัยฤดูกาลของอุตสาหกรรมที่ปกติมักจะมียอดโอนเข้ามาจำนวนมากช่วงปลายปี ส่วนกำไรสุทธิรวมของกลุ่มน่าจะทำได้เพียง 36,799 ล้านบาท หรือลดลงเล็กน้อยราว 0.63% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 37,033 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนค่าใช้จ่ายการขายเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อัตรากำไรปรับตัวลดลงจากการทำโปรโมชั่นเพื่อเร่งระบายโครงการ

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ยังแนะนำ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) จากการปรับกลยุทธ์รับมือช่วงโลว์ซีซั่นด้วยการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายและการโอนต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีจุดเด่นเป็นหุ้นปันผลสูง (Dividend Yield) กว่า 6.5% และราคายังต่ำกว่าตลาดค่อนข้างมาก

นางสุชาดา พันธุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยอันดับเครคิต บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยกำลังจับตาดูความเสี่ยงของกลุ่มอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งยังน่าเป็นห่วงมากกว่ารายใหญ่ เนื่องจากบางรายยังมีโครงการค้างสต๊อกรอขายอยู่จำนวนมาก ขณะที่การเปิดโครงการใหม่ชะลอตัวทั้งจากอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้น และการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในโครงการใหม่ ๆ

ทั้งนี้ การขยายตัวของกลุ่มอสังหาฯในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา เป็นเพราะรับอานิสงส์จากโครงการกระตุ้นของภาครัฐ ซึ่งมีการเร่งการโอนจำนวนมากโดยไม่เปิดโครงการใหม่มากนัก ส่งผลให้ Backlog ลดลงไปราว 10-20% ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/2559 ยอดโอนน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ และคาดว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะเปิดโครงการใหม่มากขึ้นเพื่อเพิ่ม Backlog ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

“ในช่วงครึ่งปีหลัง เราต้องมอนิเตอร์กลุ่มอสังหาฯมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก เนื่องจากมีความเสี่ยงทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เติบโตชัดเจน ซึ่งจะมีผลต่อกำลังซื้อที่ชะลอตัวและการเปิดโครงการใหม่ที่ล่าช้า ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนหันไปออกหุ้นกู้แบบไม่มีเรตติ้งหรือตั๋ว B/E มากขึ้น ซึ่งอาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในอนาคตมากขึ้นได้” นางสุชาดากล่าว

ขอบคุณข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจ